มันไม่เคยมีการซื้อขายเก้าอี้จริงหรือ

การซื้อขายตำแหน่งเป็น วงจรเสื่อม ขององค์กรตำรวจยิ่งกว่าวิ่งเต้นหา “ตั๋วฝาก” จากขั้วอำนาจนักการเมือง

แต่ผู้ใหญ่มักหาข้ออ้างไม่มีใบเสร็จสำเร็จความผิด

มันไม่เคยมีอยู่จริงในวงการตำรวจอย่างนั้นหรือ

ทั้งที่คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10112/2559 เคยระบุไว้ชัดเจน

จำเลยที่ 1 และพันตำรวจเอก ส  เป็นฝ่ายติดต่อและเสนอเรียกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายและเลื่อนตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจจังหวัด จากผู้เสียหาย แต่จำเลยที่ 1 และพันตำรวจเอก ส ก็แจ้งให้ผู้เสียหายและพันตำรวจเอก ช  ทราบว่า

จำเลยที่ 1 และพันตำรวจเอก ส  สามารถวิ่งเต้นให้ได้โดยมีผู้ใหญ่ซึ่งมีโควตาของตำแหน่งผู้บังคับการแต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นเป็นเงินจำนวน 10,000,000 บาท จนผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงินให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3

พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมเป็นข้อบ่งชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นภริยาของพันตำรวจเอก ช  ทราบว่า หากพันตำรวจเอก ช  จะได้ตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจะต้องมีการวิ่งเต้นเสียเงินเป็นการตอบแทนอันเป็นการได้ตำแหน่งมาโดยมิชอบ

การที่ผู้เสียหายหลงเชื่อการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งของจำเลยที่ 1 และพันตำรวจเอก ส  จนมอบทรัพย์สินให้แก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ย่อมมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ผู้เสียหายจึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะมีอำนาจร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกงซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกง และขอให้จำเลยทั้งสี่คืนเงินจำนวน 9,700,000 บาทแก่ผู้เสียหาย แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้องในคดีส่วนอาญา แต่เมื่อคำขอส่วนแพ่งเป็นคำขอที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่โจทก์ฟ้อง อำนาจของพนักงานอัยการที่จะว่ากล่าวเกี่ยวกับคำขอส่วนแพ่งยังคงมีต่อไปและศาลต้องวินิจฉัยคดีส่วนแพ่งตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยทั้งสี่ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดหรือไม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 47 วรรคหนึ่ง

ผู้เสียหายมอบเงินจำนวน 9,700,000 บาท ให้แก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จำเลยที่ 1 กับพวกวิ่งเต้นในเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายพันตำรวจเอก ช  สามีของผู้เสียหายเพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งเป็นการได้ตำแหน่งมาโดยมิชอบอันมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย

ย่อมถือว่าผู้เสียหายได้กระทำการชำระหนี้เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ผู้เสียหายหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 411

ล้วนเป็นเรื่องจริงที่กล้าปฏิเสธไหม

ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งโยกย้ายในวงการตำรวจ