ตั้งจุดสกัดด่านแม่สอด จับตาขบวนการค้ามนุษย์ หลัง NGO ส่งจดหมายถึงนายกฯ

ตำรวจ ปคม. ร่วม ตำรวจทางหลวง ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ตั้งจุดสกัดด่านแม่สอด จับตาขบวนการค้ามนุษย์หลอกต่างชาติทำงานผิดกฎหมายประเทศเพื่อนบ้าน หลัง NGO ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายก ชี้ไทยถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงเหยื่อข้ามแดนสู่แหล่งอาชญากรรม

จากกรณีเครือข่ายภาคประชาสังคมส่งจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย 9 สถานทูต-องค์กรนานาชาติและผู้นำกองกำลังชาติพันธุ์ เพื่อขอให้ช่วยเหยื่อค้ามนุษย์ 110 ราย บริเวณชายแดนไทย-พม่า ริมแม่น้ำเมย พร้อมบ่งชี้ว่าประเทศไทยกำลังถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงเหยื่อข้ามแดนสู่แหล่งอาชญากรรมดังกล่าว ก่อนที่ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จะมีคำสั่งให้หน่วยงานตำรวจต่างๆที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหา ตามที่มีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวล่าสุดที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อติดตามผลการตั้งจุดสกัดกั้นการค้ามนุษย์ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงแม่สอด ถนนทางหลวงหมายเลข 12 อ.แม่สอด จ.ตาก

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า สำหรับการตั้งจุดสกัดกั้นการค้ามนุษย์ บริเวณหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงแม่สอด บนถนนทางหลวงหมายเลข 12 นั้น เป็นไปตามนโยขายของ ผบ.ตร. ที่สั่งการให้ตำรวจ ปคม. เร่งดำเนินการ เนื่องจากมีข้อมูลว่าปัจจุบันมีชาวต่างชาติ จำนวนมากเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งเข้ามาแบบถูกต้อง และ ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ก่อนเดินทางออกชายแดนแม่สอดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไปทำงาน ซึ่งมีทั้งไปทำงานปกติ และ ถูกล่อลวงไปบังคับทำงานผิดกฎหมาย

 

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า ทางตำรวจ ปคม. จึงบูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจทางหลวง ตั้งด่านตรวจ หรือ จุดสกัดขึ้นมา ตรวจสอบคัดกรองชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว ที่เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวเพื่อเตรียมเดินทางออกไปทำงานยังประเทศเพื่อนบ้านว่าถูกล่อลวงมาหรือไม่ รวมถึงถือโอกาสแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกจากขบวนค้ามนุษย์

“ปกติด่านแม่สอดจะมีการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ให้กับชาวต่างชาติที่ผ่านเข้าออกด่านดังกล่าวเป็นประจำ จะมีแต่เพียงบางส่วนที่ลักลอบเดินทางเข้าออกผ่านช่องทางธรรมชาติ ผ่านเส้นทางนี้ จึงจำเป็นต้องตั้งจุดสกัดขึ้นมาเพื่อป้องกัน”

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวเสริมว่า จึดสกัดดังกล่าวตั้งอยู่บนทางหลวงแม่สอด ด้านหลังด่านหลัก ซึ่งแนวทางการดำเนินการจะมุ่งเน้นคัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีการจัดกำลังพลเข้าเวรพลัดละ 12 นาย และจะทำเช่นนี้ทุกวันตลอดระยะเวลา 1 เดือนนับจากนี้ เพื่อดูปริมาณต่างชาติเข้าออกมีมากน้อยแค่ไหน ส่วนกลุ่มเป้าหมาย เน้นชาวต่างชาติทุกสัญชาติไม่ใช่เฉพาะชาวเมียนมาร์ จะมีแค่เพียงชาวจีนที่จะเน้นเป็นพิเศษ

“สำหรับกลุ่มชาวต่างชาติที่รับตัวมาเมื่อวานเพื่อนำมาคัดแยก มีจำนวน 35 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการเดินทางผ่านประเทศไทยจริงๆเพียงแค่ 7 ราย ทั้งนี้เชื่อว่า ถ้าแผนงานนี้ยังคงดำเนินการต่อไป ในอนาคตจะมีชาวต่างชาติถูกหลอกโดยขบวนการค้ามนุษย์เพื่อพาไปบังคับทำงานประเทศเพื่อนบ้านลดลง”

RELATED ARTICLES