พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 สั่งการ พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับความสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี พ.ต.ต.ประจักษ์ กุลนาพันธ์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี นำกำลังจับกุมนายศรายุท หรือดำ เสาธงใหญ่ อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สาขามีนบุรีที่จ.17/2555 ลงวันที่ 5 มิ.ย.2555 ข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนและใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันพาไปเพื่อการอนาจารโดยขู่เข็ญและใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอื่นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้โดยมีอาวุธปืน จับกุมได้ที่บริเวณอาคาร 6 แฟลตบางชัน ซอยเสรีไทย 91 ถนนเสรีไทย แขวงและเขตมีนบุรี กทม.
ทั้งนี้ทราบว่า นายศรายุทธ ผู้ต้องหารายนี้ร่วมกับ นายทะนงศักดิ์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้บังคับหญิงสาวที่เพิ่งเลิกงานเข้าไปข่มขืนในป่าข้างทางจนสำเร็จความใคร แล้วชิงทรัพย์เหยื่อหลบหนี กลางดึกเมื่อปี 2555 บริเวณซอยสุวินทวงศ์ 24 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. ต่อมาตำรวจสน.มีนบุรี สามารถจับกุมนายทะนงศักดิ์ ดำเนินคดีไปแล้วเหลือแต่ นายศรายุทธ ที่ยังหลบหนี เหลืออีกเพียง 183 วัน คดีจะหมดอายุความในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นายศรายุทธได้หลบนี้ทำงานขี่รถจยย.รับจ้างอยู่ที่บริเวณแฟลตบางชัน กรุงเทพฯ จึงนำกำลังไปปิดล้อมตรวจค้นจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวน นายศรายุทธ ยอมรับว่าตอนวัยรุ่นมีนิสัยเกเรก่อเรื่องก่อราวอยู่บ่อยๆ หลังร่วมกับเพื่อนรุ่นพี่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์สาวฉุดไปข่มขืนหลบหนีคดีไปหลายที่ ปัจจุบันมีอายุ 37 ปี มีครอบครัวแล้วเลิกนิสัยเกเรตอนวัยโจ๋ ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว และน่าจะหนีได้จนหมดอายุความไม่คิดว่าตำรวจจะตามมาจับจนได้ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี
