สตม. บุกทลายใหญ่ จับ 5 แก๊งคอลฯยากุซ่า

พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ชย พานะกิจ หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับประสานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ว่ามีกลุ่มคนร้ายลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงชาวญี่ปุ่น เป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยหลอกลวงว่าจะได้รับเงินประกันสุขภาพคืน

โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่นนี้ จะทำงาน  ตั้งแต่วันจันทร์ – วันเสาร์ โดยมีรูปแบบการหลอกลวงว่า “เป็นการขอคืนเงินค่ารักษาพยาบาล โดยใช้โทรศัพท์หลอกลวงผู้สูงอายุในญี่ปุ่น โดยอ้างว่าเป็นเจ้าที่ของรัฐ” ซึ่งคอลเซ็นเตอร์สายแรกจะปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐ โทรศัพท์ไปอธิบายกับเหยื่อที่ประเทศญี่ปุ่นว่าจะมีการคืนค่ารักษาพยาบาล   สะสมจำนวนหลายล้านเยน และจะให้เหยื่อเตรียมเงินไว้ในบัญชี ตั้งแต่จำนวน 500,000 เยน ขึ้นไป

จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อไปทำรายการโอนเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็มไปยังบัญชีของคนร้าย เมื่อเหยื่อโอนเงินสำเร็จหัวหน้าแก๊งก็จะสั่งการให้ลูกน้องไปถอนเงินออกจากบัญชี โดยพบความเสียหายแล้วกว่าวันละหลายสิบล้านเยน

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์ 2 ที่ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี 

จุดที่ 1
บ้านพูลวิลล่าหรู Diamond Villa
(บ้านระดับหัวหน้าสั่งการ)
ตรวจพบคนต่างด้าว สัญชาติญี่ปุ่น
จำนวน 2 ราย ได้แก่
1. นายทาคายูกิ อูไค อายุ 42 ปี
2. นายฮาจิเมะ ฮาทานากะ อายุ 40 ปี

จุดที่ 2
บ้านพูลวิลล่า (บ้านทำคอลเซ็นเตอร์)
ตรวจพบคนต่างด้าว สัญชาติญี่ปุ่น
จำนวน 3 ราย ได้แก่
1. นายเคนจิโระ คิมูระ อายุ 37 ปี
2. นายทาคาฮิโระ อิโน๊ะอุเอะ อายุ 34 ปี
3. นานคัตซูฮิโตะ ยามากุชิ อายุ 28 ปี

 พร้อมพบพยานหลักฐานโทรศัพท์มือถือแทปเล็ต กระดานรายชื่อและข้อมูลของผู้เสียหาย รวมจำนวน 37 รายการ ซึ่งพยานหลักฐานยืนยันว่าเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง คือ ภาพสคริปการสนทนากับเหยื่อ ข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวงเป็นต้น ฯลฯ
 
ในเบื้องต้น สตม. ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว ทั้ง 5 ราย เนื่องจากเชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคม จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สตม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


         
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า หัวหน้าแก๊งเคยเป็นสมาชิกยากูซ่า แก๊งยามากูจิ ในประเทศญี่ปุ่น โดยตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลวง ในแต่ละวัน มากถึง 24,000,000 เยน หรือประมาณ 5 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดนำเงินไปฟอกโดยการเปิดธุรกิจมีลักษณะการใช้คนไทยเป็นนอมินี ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการกระทำความผิดต่อไป.

RELATED ARTICLES