รวบ ‘โอ๊ตหนองอีเติ่ง’ หัวใสลอบจำหน่ายปืนเถื่อนผ่านโลกโซเชียล ซุกในกล่องขนมปี๊บ สารภาพทำกันทั้งหมู่บ้าน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พัชรพงษ์กาญจนวัฎศรี รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์  จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมตัว นายนภัสกร อ่องสอาด หรือ โอ๊ตหนองอีเติ่ง อายุ 23 ปี  ข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต , จำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร” พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก , กล่องขนมปี๊ป จำนวน 2 กล่อง ,รถยนต์กระบะ Toyota Hilux Vigo จำนวน 1 คัน จับกุมตัวได้ที่ ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้หมู่บ้านหนองอีเติ่ง ต.น้ำทรง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลจับกุม “สมโคลท์พันกระบอก” พ่อค้าปืนเถื่อนตัวใหญ่ได้ที่ จ.สุพรรณบุรี ต่อมาได้แกะรอยจนพบว่า บรรดาปืนเถื่อนที่ระบาด มีต้นตอมาจาก หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จึงลงพื้นที่สืบสวนจนพบว่า หมู่บ้านดังกล่าวขึ้นชื่อทางลับว่าเป็นแหล่งผลิตปืนเถื่อนมานาน ก่อนทราบว่า จะมี “วัยรุ่นชายไว้เครา” คอยลำเลียงเถื่อนที่ผลิตจากในหมู่บ้านออกมาส่งให้กับลูกค้านอกหมู่บ้าน จึงส่งชุดสืบสวนโรยตัวเฝ้าสังเกตุการณ์ตามป่าละเมาะข้างทางน้ำไม่อาบกว่า 2 วัน  จนกระทั่งวันที่ 5 ม.ค. 67 พบชายต้องสงสัยเดินออกจากบ้านก่อนขับรถกระบะออกจากหมู่บ้าน จึงติดตามอย่างกระชั้นชิด พบว่า ชายต้องสงสัยขับรถไปส่งพัสดุ จึงปิดล้อมเข้าชาจน์รวบตัวทันที โดยตอนแรกผู้ต้องหาอ้างว่า มาส่งขนม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกล่องขนมปี๊ป พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ซุกซ่อนอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน นายนภัสกร ให้การว่า “ไม่เพียงแต่บ้านของตน แต่ทั้งหมู่บ้านหนองอีเติ่ง ก็ทำปืนเถื่อนขายกันเกือบทั้งหมู่บ้าน บางคนเลิกทำไปแต่เมื่อรายได้ไม่พอก็กลับมาทำใหม่ ตั้งแต่ตนจำความได้หมู่บ้านตนก็เป็นเช่นนี้แล้ว โดยสมัยก่อนยังไม่มีระบบขนส่ง ลูกค้าจะมารับแบบชนมือบริเวณถนนนอกหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันก็ใช้การส่งผ่านระบบขนส่งพัสดุ โดยตนจะคอยดูข่าวเมื่อใดตำรวจระดับสูงมีการสั่งระดมกวาดล้างปืนเถื่อนก็จะหลุดขาย เวลามีคนแปลกหน้าเข้ามาก็จะมีคนคอยแจ้งเตือน ก็จะหลบเอาของกลางไปซ่อนเจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาตรวจไม่พบอะไรจึงนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ดำเนินคดีต่อไป

 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรามีการสืบสวนจับกุมขยายผลกลุ่มผู้ค้าปืนเถื่อนมาหลายราย กระทั่งคืนใกล้ต้นตอมาจนถึงการจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบต้นตอปืนเถื่อนที่สำคัญมาก เรียกได้ว่าเป็นตัวสำคัญของแหล่งผลิตปืนเถื่อน ต้นตอสำคัญที่ทำให้ปืนเถื่อนเกลื่อนประเทศก็ว่าได้ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เราจะมีการขยายผลการจับกุมให้ถึงที่สุด และขอฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาทส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท”