ปส.จับต่างชาติผิวสี 11 ราย ย่านสุขุมวิท จำหน่ายโคเคนให้กับนักท่องเที่ยว ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ

พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รรท.รอง ผบช.ปส. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการ สแกนพื้นที่ชั้นในทลายนักค้ายาผิวสี พร้อมตัดตอนสกัดกั้นกระบวนการลำเลียงยาเสพติด

พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. กล่าวว่า เคสแรกเป็น การสแกนพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร โดย กก.2 บก.ปส.1 เพื่อสืบสวนหาข่าวและเฝ้าสังเกตพฤติการ กลุ่มนักค้ายาผิวสี ที่ลักลอบจำหน่ายโคเคนให้กับนักท่องเที่ยวย่านซอยนานา ถนนสุขุมวิท ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆจนสามารถออกหมายจับกลุ่มผู้ค้า 12 ราย ติดตามจับกุมได้ 11 รายเป็นชายผิวสี 11 ราย หญิงไทย 2 ราย ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) จำนวน 61 กรัม เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี

ส่วนของการตัดตอน สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.2 บก.ปส.3 ได้สืบสวนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ภาคเหนือจนทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้าลักลอบลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ภาคเหนือจากจังหวัดเชียงรายมาทางจังหวัดอยุธยา เพื่อนำส่งกลุ่มผู้ค้าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

ต่อมา นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ทราบว่ามีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติด ที่บริเวณซอยทางเข้าบ้านพักเฮือนฮิมบ่อ ตำบลดอยห่าง อำเภอเมืองเชียงราย เมื่อเข้าตรวจสอบพบกล่องกระดาษและกระสอบสีรุ้ง บรรจุยาบ้าประมาณ 478,000 เม็ด เคตามีน 30 ก้อนน้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ตรวจยึดและสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่าย
ต่อมาวันที่ 19 ม.ค. ชุดสืบสวนพบรถยนต์ 3 คัน ของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดบริเวณปั๊มน้ำมันแยกสวนผัก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงปิดล้อมตรวจค้นแต่ผู้ค้าเร่งเครื่องหลบหนีขับพุ่งชนรถยนต์ของเจ้าที่ได้รับความเสียหาย ก่อนจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือนายธนกฤต อายุ 21 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า 478,000 เมตร เคตามีน 30 กิโลกรัม ตรวจยึดรถยนต์ 3 คัน พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยทั่ว มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ชุด นปส.นครพนม / อุดรธานี กก.3 บก.ปส.2 ได้สืบสวนกลุ่มลูกค้าในภาคอีสาน เป็นการตัดตอนไม่ให้สามารถนำยาเสพติด นำแพร่กระจายเข้าสู่พื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 4,000,000 เม็ดรถยนต์ 2 คัน จับได้บริเวณริมถนนตลาดชุมชนสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ต่อเนื่องกับปั๊มน้ำมันใน ตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยาเสพติดมาจากลานจอดรถห้างแม็คโคร นครพนม ให้นำไปส่งปลายทาง ถนนพระราม 2 จ.สมุทรสาคร ซึ่งได้ค่าจ้าง 200,000 บาท

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลกลุ่มผู้ค้า จนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนอีสาน มาพักและเตรียมขนส่งให้แก่เครือข่ายทางภาคใต้ เป็นบ้านหลังหนึ่งในตำบลลำพญา อำเภอเมืองนครปฐม และจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 รายพร้อมของกลางยาบ้า 3,000,000 เม็ดรถยนต์ที่ใช้ในการขนอีก 1 คัน

พล.ต.ท.สันติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้มีผลการจับกุมและทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้จำนวนมาก และการจับกุมในแต่ละครั้งจะมรการขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้สมคบสนับสนุน ผู้ค้าและบังคับใช้กฎหมายยาเสพติดในเรื่องของการดำเนินการในส่วนทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดให้หมดไปหรือให้น้อยลงมากที่สุด ต่อไป

RELATED ARTICLES