ทลายแก๊ง ‘มังกรจีนเทา‘ พบปีกว่ามีเงินหมุนเวียน 2.9 พันล้าน

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รองผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ มงคลการ สว.กก.2 บก.ปอท.ร่วมแถลงผลทลายแก๊ง ‘มังกรจีนเทา‘เครือข่ายฟอกเงินแก็งคอลเซ็นเตอร์ สามารถจับกุมนางสาวอัจฉรา อายุ 27 ปี และชาวจีน 4 คนพร้อมคนไทยในขบวนการรวมทั้งหมด 10 คน ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันเป็นอั้งยี่และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าขบวนการดังกล่าว ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มีการยักย้ายถ่ายเทเงิน ที่ได้จากการกระทำความผิดเป็นทรัพย์สินดิจิทัล ก่อนจะถ่ายเทไปยังกระเป๋าดิจิทัลอีกหลายทอด จนกระทั่งพบว่ากลุ่มผู้ต้องหา ทำหน้าที่ฟอกเงินและแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลเป็นเงินสด เพื่อนำส่งให้กับกลุ่มจีนเทาภายในประเทศไทย เบื้องต้นพบมีผู้เสียหายประมาณ 60 รายมูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาทจากการขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถออกหมายจับ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 32 ราย ประกอบด้วยบัญชีม้าคนไทย 10 ราย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจำนวน 2 ราย กลุ่มขบวนการฟอกเงินจำนวน 20 ราย ซึ่งมีทั้งชาวไทยชาวจีนและชาวเกาหลี

จากนั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 68 ตำรวจได้ขยายผล ตรวจค้น 20 จุดใน 8 จังหวัด โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 ราย ซึ่งเป็นแก็งฟอกเงิน ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภายในประเทศไทย จำนวน 5 ราย และเจ้าของบัญชีม้าอีก 5 ราย โดยตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินต่างๆรวม 210 รายการ มูลค่าทั้งหมดกว่า 440 ล้านบาท โดยนางสาวอัจฉรา เป็นตัวการฟอกเงินในประเทศไทย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับในข้อเท็จจริงว่า เมื่อปี 62 เคยทำหน้าที่เป็นล่ามและไกด์พาเที่ยวให้กับชาวจีน ต่อมาปี 66 ได้รู้จักกับแฟนหนุ่มชาวจีน และร่วมกันรับแลกเหรียญดิจิทัลจากลูกค้ากลุ่มจีนเทาต่างๆ ที่ต้องการใช้เงินในประเทศไทย จากนั้นได้นำเหรียญดิจิทัลมาขาย และนำมาแลกเปลี่ยน นำส่งให้กลุ่มตีนเทาตามคำสั่ง โดยจะได้ค่าบริการ 0.03 % ถึง 0.05% ของยอดเงิน

โดยขั้นตอนการทำงาน แฟนหนุ่มชาวจีน จะติดต่อกับกลุ่มจีนเทาต่างๆ จากนั้นตนและสมาชิกในแก๊ง ที่ได้รับเงินดิจิทัล โดยนำเหรียญดิจิทัลมาขายในรูปแบบ p2p ผ่านแพลตฟอร์ม Exchange โดยผู้ต้องหาจะส่งเงินตามคำสั่งของกลุ่มจีนเทา ซึ่งหักยอดเงินจำนวนไม่มาก ตนเองและแฟนหนุ่ม จะใช้วิธีการโอนเงินผ่านบัญชีของตนไปให้ลูกค้า แต่ถ้าหากจำนวนเงินมากก็จะเบิกเงินสดนำไปส่งมอบให้ลูกค้า หรือ นำเงินสดเข้าบัญชีต่างๆ ตามคำสั่งของกลุ่มจีนเทา เนื่องจากกลุ่มจีนเทาต้องการใช้เงินในประเทศไทย

โดยตนเองได้ทำหน้าที่ฟอกเงินในปี 66 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการรับเป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุล USDT จำนวน 187 ล้านเหรียญ USDT คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,500 ล้านบาท และมีการถอนเงินสดเป็นเงินไทย 2,900 ล้านบาท และยังมีการนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ สำหรับผู้ต้องหาลำดับที่ 2-5 เป็นผู้ต้องหาชาวจีนประกอบด้วย MR.GAO อายุ 35 ปี MR.XIONG อายุ 30 ปี MR.MAO อายุ 46 ปี MRS.ZHOU อายุ 44 ปี ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาแต่รับในข้อเท็จจริงมีส่วนร่วมกับผู้ต้องหาที่ 1 และกลุ่มคนจีนอื่นๆมีการแบ่งหน้าที่กันทำในการรับเหรียญดิจิทัลมา จากกลุ่มจีนเทามาเทขายเหรียญก่อนนำเงินสดส่งมอบให้ลูกค้า โดยคดีนอกจากพบความเกี่ยวข้องของเส้นทางการเงินที่มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างๆแล้วยังพบว่าขบวนการนี้มีพฤติการณ์ในการก่อตั้งบริษัทที่ให้คนไทยเป็นนอมินีในการจัดตั้งเพื่อรับโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ภายหลังการโอนกรรมสิทธิ์จะเปลี่ยนกรรมการผู้มีอำนาจเป็นคนจีน ซึ่งบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาใช้เพื่อโอนกรรมสิทธิ์บ้านเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจจริง

นอกจากนี้ยังพบว่ามีเงินไหลเข้าไปบริษัทอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 10 บริษัท ในย่านบางนา เอกมัย และฝั่งธน ซึ่งใช้นอมินีสัญชาติไทย แต่กรรมการเป็นคนจีน ซึ่งตรงนี้ตำรวจจะต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมฃ

RELATED ARTICLES