หลังจากเพจ KNIGHTS BORDER (อัศวินม้าไม้) สะท้อนเรื่องราวชีวิตนักรบชายแดนใต้
ถ่ายทอดวีรกรรมของ “จ่าปืน” จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตนะ ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดของตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส
พลาดท่าให้โจรใต้ก่อการร้าย BRN ลอบวางระเบิด
“ผมก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ไม่ต้องกลับบ้านด้วยเที่ยวบินพิเศษพร้อมกองเกียรติยศ” จ่าสิบตำรวจนักเก็บกู้ระเบิดระบายความรู้สึกตอนที่โดนบึม เสียงระเบิดดัง หูดับ วูบแรกคิดว่าคงตายแน่แล้ว รูปลูกพ่อแม่ภรรยาแวบเข้ามาในหัวแล้วก็สลบไป
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาพิการขาขาดทั้ง 2ข้างถึงโคนขา
เหลือร่างกายท่อนบนและลมหายใจได้อยู่กับครอบครัวต่อไป
“วันที่ผมนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มีผู้ใหญ่มากมายผลัดเปลี่ยนกันมาเยี่ยมเยียนผมไม่ขาด ไม่ซ้ำหน้า วันนั้นท่านบอกว่าจะรับภรรยาผมเข้าบรรจุเป็นข้าราชประจำที่กรมชลประทาน (เนื่องจากภรรยาผมเป็นลูกจ้างรายวันกรมชลประทานอยู่แล้ว)”
8 เดือนแล้วที่เขาและสาวคนรักคู่ชีวิตรอคอย
เขายืนยันไม่ได้มาทวงสัญญา สำหรับเขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่แล้ว และคิดว่าผู้ใหญ่ท่านคงไม่ลืม
“ผมแค่แวะมาบอกว่า ผมขายปลาส้มกับภรรยา ถ้าท่านสนใจทักมาได้ที่ภรรยาผม Lalita Sunseng ขอบคุณครับ” ชีวิตของตำรวจพิการทุพพลภาพยังต้องดิ้นร้นหารายได้เลี้ยงครอบครัว
วีรบุรุษแดนใต้ร่างกายพิการขายปล้าส้มเลี้ยงชีพกลายเป็นกระแสทำให้ผู้เป็นนายบางคนไม่ค่อยสบอารมณ์เหมือนประจานองค์กรตัวเอง
ทั้งที่ จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตตะ ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เหตุการณ์ครั้งนั้น ต้องเป็นคนทุพพลภาพตลอดชีวิต
เสียงนั้นคงไม่ดังถึงหูผู้มีอำนาจช่วยเหลือ
กระทั่ง พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ท.หญิง อาภาพรรณ ชลศึกษ์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 9 คุณณัชชา นิธิเตชโสภณ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นำคณะไปเยี่ยมนักรบเดนตายที่บ้านพักในตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง
มี พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และคณะแม่บ้าน นำสิ่งของบำรุงขวัญมอบให้ครอบครัว
สัญญาจะไม่ทอดทิ้ง “วีรบุรุษที่ยังมีลมหายใจ” มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการบรรจุแต่งตั้งภรรยาเป็นข้าราชการตำรวจ
ทำ “จ่าปืน” น้ำตานองขอบคุณผู้บังคับบัญชาที่ไม่ทอดทิ้งลูกน้องเมื่อยามลำบาก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเมตตาบรรจุให้ภรรยาเป็นข้าราชการตำรวจ
ก่อนฝากไปยังเพื่อนตำรวจที่ประสบชะตากรรมเหมือนตัวเองว่า อย่าท้อถอยกับชะตาชีวิตที่ตกต่ำ ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อคนรอบข้างและเพื่อตัวเอง
“ขอบคุณบรรดาประชาชนที่สั่งซื้อสินค้าของผมมามากมาย ทำให้ผมมีขวัญและกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต” นักรบอีโอดีทิ้งท้าย
เมื่อเจอพลังโซเชียลเปลี่ยนโลกเขาที่ถูกลืมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
