ปคม. ร่วมกับชุด Ticac ศตคม. จับเจ้าของร้านสปาบังคับเด็กหญิงเสพยา แฝงค้าประเวณี พร้อมแอดมินกลุ่มลับครอบครอง-เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก

พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม.สั่งการให้ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ รอง ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยะวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายณัฎ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหา ข้อหาค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีเด็กโดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามฯ”พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง จับได้ที่ บริเวณริมถนน แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ปคม.ขยายผลจากการจับกุมร้าน 18 exclusive  ซ.พัฒนาการ 53/1 ถ.พัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง เมื่อเดือนเมษายน 2567 หลังพบมีการนำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี มาฝค้าประเวณี จากการตรวจสอบพบว่า นายณัฐ เป็นเจ้าของร้านดังกล่าว ลักลอบนำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาบังคับค้าประเวณี โดยเปิดร้านสปาบังหน้า พร้อมโพสต์ประกาศโฆษณาค้าประเวณีอย่างโจ่งแจ้งผ่านกลุ่มลับ มีการนำภาพของเด็กหญิงสาวในลักษณะเปลือยกายเพื่อให้เกิดความน่าสนใจกับลูกค้าที่มาใช้บริการแฝงรูปแบบสปา เมื่อติดต่อแอดมินเพื่อจะจองเด็กในการใช้บริการทางเพศ จะใช้ชั้น 2 ของร้าน สำหรับบริการค้าประเวณี นอกจากนีิยังพบว่านายนัฎ ยังมีพฤติการณ์วิปริต ขอถ่ายภาพเด็กหญิง อ้างว่าจะเอาไปใช้ในการโปรโมตประชาสัมพันธ์ ให้เด็กหญิงถอดเสื้อผ้าลักษณะโป๊เปลือยร่างกาย และถ่ายภาพเน้นไปบริเวณสัดส่วนสำคัญของร่างกายมีการจัดท่าทางให้เด็กหญิง เพื่อให้ภาพที่ถ่ายออกมา มีลักษณะแนวเซ็กซี่ เช่น จัดท่าทางให้นอนชันขา หรือจับให้แยกขาออก ให้เด็กหญิงใช้มือมาวางไว้ที่บริเวณอวัยวะเพศ อันเป็นการลักษณะอนาจารและไม่สมควรต่อเด็กเป็นอย่างมาก

หลังจากถ่ายภาพลามกอนาจารเด็กเสร็จแล้ว นายณัฎ ยังขอมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิงทั้งที่เด็กหญิงไม่ได้ยินยอมแต่อย่างใดแต่อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และยังมีพฤติการณ์ถ่ายคลิปวิดิโอลามกอนาจารเด็กไว้ด้วย หลังจากสำเร็จความใคร่ ยังมีการข่มขู่เด็กหญิงว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้คนอื่นฟัง เมื่อลูกค้าสนใจจะให้ลูกค้าจองตัวเด็ก และนัดหมายให้มาที่ร้านโดยระหว่างวันจะให้เด็กหญิงพักอยู่ภายในร้าน และบังคับให้ทำงานค้าประเวณีทุกวัน ไม่มีวันหยุด หากวันใดเด็กมีประจำเดือนก็จะบังคับให้เด็กใช้ลูกเจี๊ยบ (ฟองน้ำอนามัย ที่ใช้สำหรับซับเลือดประจำเดือนโดยการสอดเข้าไปในช่องคลอด) นอกจากนั้นยังมีการให้เด็กเสพยาเสพติดเพื่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เพื่อให้เด็กสามารถค้าประเวณีทำรายได้ให้กับผู้ต้องหาได้อย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบพบมีรายได้ที่เรียกเก็บจากลูกค้าที่มาใช้บริการค้าประเวณีต่อเด็กแต่ละราย มากกว่า 100,000 บาท ซึ่ง กก.1 บก.ปคม. จะได้สืบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำชำเราเด็กมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่สอง อีกคดี กก.1 บก.ปคม. และชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) ร่วมกันจับกุม นายพริสรณัฏ อายุ 35 ปี ข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้  เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง, อุปกรณ์สำรองข้อมูล (External Hard Disk) จำนวน 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 1 เล่ม ได้ที่พื้นที่เขตคลองสามวา หลังสืบสวน พบบัญชีไลน์ชื่อ “ปูเป้” มีข้อความโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์จึงติดต่อขอซื้อสื่อลามกอนาจารเด็ก โดยได้โอนเงินเป็นจำนวน 100 บาท เข้าบัญชีธนาคารของนายพริสรณัฏฐ์ เพื่อเข้ากลุ่มลับชื่อ “อะไหล่มือ2” พบสื่อลามกอนาจารเด็กทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจำนวนมาก จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายค้นของศาล เข้าตรวจค้นบ้านพักนายพริสรณัฏฐ และจับกุมตัว สอบสวนผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เป็นแอดมินกลุ่ม “อะไหล่มือ2” เก็บค่าสมาชิกเข้ากลุ่มคนละ ๑๐๐ บาท ทำมาแล้วเป็นเวลากว่า 1 ปี มีรายได้หลายแสนบาท นำตัวส่งกก.1.บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป

และคดีที่ 3 กก.4.บก.ปคม. ร่วมกับชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) ศตคม.ตร.จับกุมนายวรายุส อายุ 26 ปี ข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือสมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม จับกุมในพื้นที่ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์
หลังพบเบาะแสเกี่ยวกับการเผยแพร่และจำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กผ่านบัญชี X ชื่อ “@wh1sper2436” และบัญชีไลน์ ชื่อ “B” จึงสืบสวนจนทราบว่า นายวรายุส เป็นผู้เรียกเก็บเงินจากบุคคลทั่วไปเพื่อเข้ากลุ่มลับดูสื่อลามกอนาจารเด็กชาย ที่เผยแพร่ผ่านกลุ่มลับ จำนวน 2 กลุ่ม จากการสืบสวนยังพบหลักฐานยืนยันว่า นายวรายุส เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ครอบครองสื่อลามก เพื่อแสวงหาผลประโยชน์” มาแล้วเมื่อปี 2565 แต่ไม่ได้มีจิตสำนึกเกรงกลัวต่อกฎหมาย กลับมากระทำความผิดเกี่ยวกับเพศซ้ำ จึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นและจับกุมสอบถาม นายวรายุสฯ รับสารภาพว่า เป็นผู้เปิดกลุ่มลับเพื่อขายคลิปลามกอนาจารเด็กชาย จำนวน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมีสมาชิก 25 บัญชี และกลุ่มที่สองมีสมาชิก 89 บัญชี โดยมีค่าใช้จ่ายเข้ากลุ่มที่ 1 ราคา 99 บาท และกลุ่มที่สองราคา 159 บาท โดยสื่อบางส่วนตนได้ผลิตขึ้นเอง และทราบชื่อผู้เสียหายจำนวน 2 ราย ปัจจุบันอายุ 17 ปี และ 18 ปี จึงได้ทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย

RELATED ARTICLES