พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล. ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ร.ต.อ.ชรัณ ปาณะศรี รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., จ.ส.ต.สราวุธ กรรณสุรางค์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.จับกุมตัว นายณัฐวุฒิฯ อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน ( ยาบ้า ) จำนวน 60 เม็ด, อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก หมายเลขประจำปืน (ไม่มีทะเบียน), เครื่องกระสุนปืน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด (อยู่ในรังเพลิง 1 นัด) ได้ที่บริเวณไหล่ทางถนนเพชรเกษม กม.480+600 (ขาเข้ากทม.) ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบมาถึงยังบริเวณถนนเพชรเกษม กม.480+600 (ขาเข้ากทม.) ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ป้ายทะเบียน ชุมพร จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ลงจากรถเพื่อเข้าไปพูดคุยประชาสัมพันธ์ ให้ไปจอดยังบริเวณที่ปลอดภัย เมื่อผู้ขับขี่เปิดประตูรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กลิ่นยาเสพติดลอยออกมาจากภายในตัวรถ เชื่อว่าผู้ขับขี่เพิ่งเสพยาเสพติดมาไม่นาน ตรวจสอบผู้ขับขี่ คือ นายณัฐวุฒิฯ ขณะที่ได้พูดคุยกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตุเห็นว่า มีอาการลุกลี้ลุกลนพูดจาวกไปวนมาจึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ ผลการตรวจค้นพบยยาบ้า จำนวน 60 เม็ดพร้อมอุปกรณ์การเสพลักษณะเพิ่งใช้งาน และพบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ไม่มีทะเบียน พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 8 นัด (บรรจุอยู่ในรังเพลิง 1 นัด) ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าที่วางอยู่บนเบาะหลังทางซ้ายฝั่งผู้โดยสารของรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายณัฐวุฒิฯ รับว่ายาเสพติดจำนวน 60 เม็ด ตนมีไว้เพื่อเสพ โดยรับว่าตนเองเพิ่งเสพยาบนรถยนต์ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบ ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตนได้ซื้อมาจากเพื่อนำมาไว้เพื่อป้องกันตัว ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้ครอบครอง โดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นผู้ขับขี่รถและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควรต่อไป