การมาแพร่ระบาดทำลายอนาคตของชาติอีกรอบอย่างน่ากลัว
ปัญหาทะลักของ “ยานรก” จำนวนมหาศาลกลายเป็นคำถามสงสัยถึงนโยบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาถูกทางแล้วหรือ
ยอดจับกุมยึดของกลางมากมายไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเป็นบทพิสูจน์ความต้องการของตลาดค้ายาเสพติดยังคงมีไม่หยุด
กฎหมายเป็นเรื่องท้าทายให้พวกมันกล้าลำเลียงขนถ่ายยาเสพติดยิ่งกว่าผักผลไม้ ยอมแลกราคาที่คิดว่า “คุ้มค่าเสี่ยง”
บางหน่วยหัวใสซิกแซก “ล่อขาย” เพิ่มยอดจำหน่ายเอาเงินรางวัลเท่าตัว
วันก่อน พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กเยาวชนและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับ พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 3 และ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย แกะรอยขบวนการยานรกรายใหญ่ในเมืองหลวงนานกว่า 1 เดือนก่อนรวบโจ๋หนุ่มวัยเพียง 17 ปี นำยาบ้า 4,000 เม็ด และยาไอซ์อีก 1 กิโลกรัม เตรียมนำไปส่งลูกค้า
ขยายผลตรวจค้นห้องพักชั้น 2 บ้านนพคุณอพาร์ตเมนต์ ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ยึดยาบ้ามากถึง 8.6 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 37 กิโลกรัม
ก่อนหน้าเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2561 ทีมกองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 8 เพิ่งทลายแก๊งยานรกย่านจอมทอง ยึดยาบ้า 10 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 398 กิโลกรัม
ส่วน ด่านตรวจปูแกง ถนนพหลโยธิน บ้านปูแกง หมู่ 1 ตำบลแม่เย็น อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย รวบตัวหนุ่มสุพรรณบุรี ขนยาบ้า 14,966,000 เม็ด เตรียมนำไปส่งลูกค้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพียงไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่พริก จังหวัดลำปาง ร่วมกับ กองบังคับการสกัดกั้นและลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เอกซเรย์พบยาบ้า 13 ล้านเม็ดซุกรถบรรทุกเฟอร์นิเจอร์เจอด่านตรวจตำรวจแม่พริกพอดี
ไม่นับรายยิบย่อยหลักแสนเม็ดที่กวาดจับกันทั่วประเทศแทบทุกวัน
เดือนเศษตำรวจสามารถสกัดจับยาบ้าไปแล้วเกือบ 50 ล้านเม็ด
แล้วที่หลุดรอดสายตาเข้าสู่บรรดาเอเย่นต์ส่งกระจายต่อลูกค้ารายย่อยยันผู้เสพโดยตรงอีกไม่รู้เท่าไร
ปรากฏได้จากข่าว “คนเมายาบ้า” คลั่งทำร้ายตัวเอง จี้ตัวประกัน หรือถึงขั้นไล่ฆ่าฟันพ่อแม่พี่น้องเพื่อนและคนใกล้ชิด
เหล่านี้ คือ มหันตภัยยาเสพติด พิษร้ายบ่อนทำลายชาติ
แถมจับแต่ละครั้งได้แต่ “นักบินกับคนเฝ้าของ” ระดับ “นายทุนตัวแสบ” ล่องหน เหมือนมีมนต์ซ่อนกลหลบหลีกได้ทุกที
ยุคหนึ่งเคยประกาศสงครามใช้มาตรการรุนแรง มีการตัดตอน 2,500 ศพ ทำขบวนการยานรกหยุดชะงักหัวหดกันไปพักใหญ่ หลายครอบครัวได้ลูกหลานกลับคืนสู่อ้อมอก มี “เสียงชื่นชม” ของชาวบ้านถึงการทำงานปราบปรามแบบเด็ดขาดของรัฐบาล
สอดแทรกเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระทำรุนแรงเกินเหตุ
ส่งชนวนเหตุให้พวกมันกลับมาระบาดหนักกว่าเดิม
แล้วจะเลือกเดินแบบไหน !!!