พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.บก.ทล. พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ Fast Fraud Furious ล่า Young Mastermind ขบวนการใช้อุบายติดต่อหาเช่ารถจากบริษัทนิติบุคคลต่างๆ” ก่อนสามารถจับกุมผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายภัทรจารินทร์ (สงวนนามสกุล) หรือ แจ็ค ชนะค้า หัวหน้าขบวนการ อายุ 27 ปี 2.น.ส.มนัญชยา จันทร์พุฒ อายุ 36 ปี กรรมการบริษัทที่ติดต่อทำสัญญาเช่ารถ 3. น.ส.พรพรรณ พงษ์ป้าน อายุ 37 ปี คนรับมอบอำนาจจากบริษัทไปติดต่อเช่ารถ และ 4. น.ส.นวรัตน์ ทาอ้าย อายุ 42 ปี คนทำหน้าที่โอนจ่ายเงินค่าเช่ารถ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย”
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีผู้ประกอบการบริษัทรถเช่ารายหนึ่งในพื้นที่ กทม. ร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูก นายภัทรจารินทร์ หรือ แจ๊ค ทำทีมาติดต่อขอเช่ารถ โดยอ้างว่า เป็นพนักงานของบริษัท เอ็ม วาย เอ็น คิทเช่น 2043 จำกัด ประกอบกิจการชำแหละเนื้อสัตว์ปีก ต้องการขอเช่ารถบรรทุกเล็ก 6 คัน เพื่อใช้เป็นยานพาหนะขนย้ายสินค้าเนื้อสัตว์ปีก ไปส่งยังผู้ประกอบการต่าง ๆในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมพาตัวแทนบริษัทผู้เสียหายไปดูที่ตั้งสถานที่ประกอบการ ซึ่งตั้งอยู่ย่านลำผักชี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะมีการตกลงเช่ารถกันที่เดือนละ 19,000 บาท ต่อคัน ระยะเวลา 5 ปี โดยมี น.ส.พรพรรณ เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจจากบริษัทชำแหละเนื้อสัตว์ดังกล่าว มาเป็นผู้ทำสัญญา พร้อมจ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน โดยนัดส่งและรับมอบรถทั้ง 6 คัน กันที่หน้าโรงงานชำแหละเนื้อสัตว์ดังกล่าว
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามหลังมีการส่งมอบรถทางบริษัทรถเช่าหรือผู้เสียหาย ได้ตรวจพบความผิดปกติว่า ระบบนำทาง หรือ GPS ของรถทั้ง 6 คัน ได้ถูกถอดออก จึงพยายามติดต่อไปยังบริษัทชำแหละเนื้อสัตว์ดังกล่าว แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ก่อนจะตัดขาดการติดต่อไป จึงเชื่อว่า ถูกหลอกโจรกรรมเชิดหนีไป
ด้าน พ.ต.อ.ภคพล กล่าวว่า หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาข้อมูล จนเชื่อมีการทำกันเป็นขบวนการ โดยเปิดบริษัท หรือ โรงงานรับชำแหละเนื้อสัตว์ บังหน้า เพื่อหลอกลวงเช่ารถจากบริษัทรถเช่าต่างๆ อีกทั้งยังพบข้อมูลว่า ขณะนี้ กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวยังได้ติดต่อเช่ารถกับบริษัทรถเช่าอื่นๆในพื้นที่ กทม. อีก 4 แห่ง รวม 24 คัน ได้รถไปแล้วจำนวน 14 คัน คงเหลืออีก 10 คัน อยู่ระหว่างรอการส่งมอบ เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดต่อผู้ประกอบการ ก่อนสามารถยับยั้งการส่งมอบรถที่เหลืออีก 10 คัน ได้ทันเวลา
“ด้วยพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคมของขบวนการดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะผู้ร่วมกระทำผิด จนสามารถสืบทราบตัวบุคคลได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายภัทรจารินทร์ ทำหน้าที่ติดต่อใช้อุบายขอเช่ารถจากบริษัทต่างๆ และ ทำหน้าที่เป็นเหมือน Master Mind หรือ หัวหน้าขบวนการ , น.ส.มนัญชยา ทำหน้าที่ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริษัท คอยทำหน้าที่สร้างความน่าเชื่อในการติดต่อเช่ารถ และคนรับมอบรถยนต์ ,น.ส.พรพรรณ ทำหน้าที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัททำนิติกรรมสัญญาเช่ารถ และ คนรับมอบรถยนต์ น.ส.นวรัตน์ ทำหน้าที่เป็นคนรับเงินจาก นายภัทรจารินทร์ ไปชำระเงินค่าเช่ารถล่วงหน้าให้ผู้เสียหาย โดยการฝากเงินผ่านเคาเตอร์ธนาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
“ทั้งนี้จากแนวทางสืบสวนยังเชื่อว่า ผู้ต้องกลุ่มนี้ น่าจะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมากว่า 2 ปี ได้รถไปไม่ต่ำกว่า 50 คัน เมื่อปรากฎหลักฐานการกระทำผิดแน่ชัด จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำมาสู่การตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ”
ขณะที่ พ.ต.ท.กฤตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายภัทรจารินทร์ หรือ แจ๊ค หัวหน้าขบวนการนั้น เดิมเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ ขายของออนไลน์ ชอบถ่ายภาพคู่กับคนดังตามโลกโซเชียลต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หรือ ตัวตนในโลกสังคมออนไลน์ รวมถึงเคยเป็นอดีตแชมป์ประเทศไทยโครงงานธุรกิจของมหาลัยดัง ก่อนระยะหลังจะเริ่มผันตัวมาชักชวนผู้คนร่วมลงทุนทำธุรกิจต่างๆ ส่วนความสัมพันธ์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เชื่อว่าน่าจะรู้จักกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนจะผันตัวมาร่วมก่อตั้งขบวนการหลอกลวงเช่ารถด้วยกันดังกล่าว
