รวบ 2 แก๊งคอลปอยเปต! อ้างเป็นตำรวจขู่โอนเงิน เสียหายรวมกว่า 308 ล้านบาท

ตำรวจไซเบอร์ปฏิบัติการกวาดล้าง 2 คอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานหลอกเหยื่อในคาสิโนเขมร อ้างเป็นผู้กำกับ หลอกเหยื่อโอนเงิน เสียหายรวมกว่า 308 ล้านบาท

วันที่ 5 ก.ค. 68 เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.2) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 ราย ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ใน “ภูลิคาสิโน” เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งดำเนินการหลอกลวงคนไทยผ่านหลายรูปแบบ โดยเฉพาะ การอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน

การสืบสวนพบว่า ขบวนการนี้เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ มีหัวหน้าเป็นชาวจีน และมีผู้ร่วมขบวนการกว่า 100 คน แบ่งเป็น 3 สายปฏิบัติการ ได้แก่ สาย 1 มีหน้าที่ ติดต่อพูดคุยกับเหยื่อ สร้างความเชื่อมั่น, สาย 2 จะรับบทเจ้าหน้าที่รัฐ ตอกย้ำความน่าเชื่อถือ ส่วนสายที่ 3 แสดงตนเป็นหัวหน้าหน่วย เช่น ผู้กำกับตำรวจ เพื่อสั่งให้เหยื่อโอนเงิน


คดีเริ่มจากการสืบสวน Hybrid Scam ช่วงกลางปี 2566 จากการแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ thaipoliceonline.go.th พบผู้เสียหายรายหนึ่งถูกหลอกให้โอนเงินลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ จำนวนกว่า 147 ครั้ง รวมมูลค่า 308 ล้านบาท ผ่านบัญชีม้า 79 บัญชี จากหลักฐานและการขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับรวม 76 ราย และจับกุมได้แล้ว 46 ราย รวมถึงผู้ต้องหาสำคัญ 2 รายล่าสุด คือ นายสมศักดิ์ อายุ 37 ปี ทำหน้าที่หัวหน้าสาย 2 ถูกจับได้ที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และ นายวราเมธ อายุ 20 ปี หัวหน้าสาย 3 อ้างตัวเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจ ถูกจับที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวราเมธ รับสารภาพว่าได้รับค่าคอมมิชชั่นสูงสุดถึง 6.5% ต่อดีล เคยหลอกเหยื่อสำเร็จถึง 12 ล้านบาท โดยอ้างว่าเคยถูกบังคับทำงานภายในคาสิโน ถูกยึดเอกสารและโทรศัพท์ เห็นผู้ที่ขัดขืนคำสั่งจะถูกทำร้าย ส่วน นายสมศักดิ์ ให้การในลักษณะเดียวกัน โดยเผยว่าถูกหลอกให้ไปทำงานก่อนถูกบังคับให้เป็นหนึ่งในทีมหลอกลวง และเคยถูกจับที่กัมพูชา ติดคุก 14 วันก่อนถูกส่งกลับประเทศไทย

ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์ยังคงเร่งขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และยืนยันเดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องประชาชนอย่างถึงที่สุด ภายใต้นโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

RELATED ARTICLES