นักสืบรุ่นใหม่กำลัง “กลายพันธุ์” ถูกกลืนจากระบบจริงหรือเปล่า
ลองหาคำตอบให้ตัวเองจากมุมคิด “นักสืบรุ่นเก่า” คนหนึ่ง
เมื่อมีคดีเกิดไม่ว่า ยิง ระเบิด ก่อการร้าย ความมั่นคง หรือคดีต่อส่วนตัวทั่วๆ ไป ปัจจัยต่างๆที่เจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวน ทุกนายต้องมี และจะเป็นปัจจัยส่งถึงความสำเร็จของการรู้ตัวคนร้าย
เอาตัวมาลงโทษตามกฎหมาย
ไม่ใช่พากันไปยืนแกว่งในที่เกิดเหตุ จับกลุ่มคุยกันกับต่างทีมเหมือนเป็นที่นัดพบเพื่อนเก่า ไปถ่ายภาพ “เซลฟี่ลงโซเชียล” หรือไปถ่ายภาพรายงานตามระบบให้มันจบๆไป
การสืบสวนทุกคดีเริ่มที่เกิดเหตุ
คนร้ายทุกคนจะทิ้งร่องรอยต่างๆไว้มากมาย
ปัจจัยที่ว่าคือ
1.ความกระหาย หรือความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะพิสูจน์ทราบให้รู้ว่า “ใคร คือ คนร้าย” มีอะไรที่เป็นพยานหลักฐานใด มีประจักษ์พยาน พยานบุคคล พยานเอกสารทางนิติวิทยาศาสตร์ใดๆ ยืนยันตัวคนร้าย ยืนยันวิธีการทำความผิดของคนร้าย
เมื่อรู้ตัวแล้วจะเอาตัวอย่างไรมารับผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
2.ความรู้ หรือทักษะว่า อะไรจะเป็นหลักฐานทางคดีที่สำคัญ และพยานหลักฐานนั้นๆจะมีวิธีเก็บ ตรวจสอบ ค้นหา สืบค้นอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับ
เป็นที่รับรอง สามารถใช้ได้ในศาล
3.ความพยายาม ความทุ่มเท ความเสียสละ ให้ได้มาข้อแรก โดยต้องมีความรู้ ทักษะ ตามข้อ 2 มาใช้ให้บรรลุผล
4.โชค ถึงแม้จะเป็นปัจจัยที่ดูเหมือนจะเหนือการควบคุม แต่ที่ผ่านมา โชคจากการทำงานมักจะเกิดจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความอยากอย่างแรงกล้ามากกว่าปกติ
อาจจะเรียกว่า “กระสันต์” ก็ไม่ผิด เป็นความรู้ และความพยายามทุ่มเทอย่างหนักในงานที่ทำ
5.ทีมงาน หมายความกว้างออกไปจากทีมที่ทำงานด้วยกัน นักสืบต้องมีพันธมิตรมากมาย เพื่อส่งเสริมข้อมูลที่ถูกต้องรวดเร็วแม่นยำ เมื่อมีเบาะแส ได้หลักฐาน สามารถไปต่อด้วยการเช็กข้อมูลได้เพียงยกหู รู้แล้วต้องไปต่อได้
พันธมิตรนี้ต่องใช้เวลาสร้าง สะสมสร้างความไว้ใจ เชื่อใจมานาน สิบปีอาจได้ใช้บริการสักครั้ง
หรือไม่เคยเลย
เสน่ห์ของนักสืบ คือ ต้องมีพวก มีพี่ มีเพื่อน สิ่งนี้แหละที่เป็นคุณค่าในตัวมีเฉพาะตัวที่ถ่ายทอดให้กันได้ แต่ไม่ทั้งหมด
ข้อมูลบางอย่างก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยเงิน รวมไปถึงการบริหารคดี การตั้งการตัดประเด็นการสืบสวน ที่ทำโดยมีผู้มีอำนาจ หรือนายที่เข้าใจงาน
ถึงกระนั้น เคล็ดไม่ลับ การสืบสวนพิชิตคดี
“ทุกคดีต้องเป็นคดีสำคัญเสมอ” เขาบ่นเบา ๆ ตามประสานักสืบรุ่นเก่า