นิตยสาร COP’S ฉบับเดือนกันยายน 2561
บันทึกเรื่องราวส่งท้าย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กับผลงานตลอด 2 ปี บนเก้าอี้ “แม่ทัพปราบยานรก” กระทั่งถึงเวลาต้องอำลาเครื่องแบบ ถอดหัวโขน เกษียณอายุราชการ
ทิ้งวลีที่สังคมต้องจดจำไว้อีกนาน
“ผมจะทำให้มันจนยิ่งกว่าขอทาน”
เจ้าตัวขับเคลื่อนหน่วยงานสำคัญที่ต้องปฏิบัติการเชิงรุกในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ผุดแผน “ชัยยะสยบไพรี” ตามไล่บี้เครือข่ายยานรกทั่วประเทศ กวาดล้างยาบ้าลอตมหาศาลเป็นประวัติศาสตร์ ได้ถึง 71,552,470 เม็ด จากจำนวนจับกุมรวมทุกหน่วยทั้งหมดทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 248,884,067 เม็ด นับตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2561
“ช่วง 2 ปีที่ผมทุ่มเททำงานมา คิดว่าไม่ชนะ แต่ไม่แพ้ ผมถือว่า เราไม่ต้องชนะมันหรอก แบบมวย เราต่อยบ้าง โดนต่อยบ้าง ไม่ใช่ฟุตเวิร์กอย่างเดียว ไม่ต่อยเลย ชาวบ้านดูจะว่า เอามวยแบบนี้มาอีกแล้ว เราจะเก่งไม่เก่ง เราก็ต่อยของเราตลอด มันจะแย็บ มันจะฟุตเวิร์กเก่งขนาดไหน ถ้าเขาต่อยเราไม่ถูก เราจะกลัวอะไร ผมไม่อยากว่า เราแพ้หรือชนะ เพราะว่า ถ้าเราชนะ มันต้องหยุด ขอชนะแค่เดือนหนึ่ง ให้มันหยุดสักเดือนหนึ่งได้ไหม โลกทั้งโลกนี่คงสะอาดขึ้นแล้ว คุณจะสบายใจว่า ผับทั้งหลายจะไม่มียาเสพติด นั่นคือหยุดแล้ว” พล.ต.ท.สมหมายว่า
“เมื่อผมเกษียณไปแล้ว อยากฝากไว้ว่า กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดต้องจับต่อไป เพราะว่า ตำรวจเรา มันมีตัวตายตัวแทน ผมไป คนอื่นก็มา กฎหมายมันก็ต้องเดินของมันอยู่ ไม่ใช่ผมทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ต้องช่วยกันทำ ถ้าคุณไม่ทำ คุณก็เหนื่อย ใครมาไม่ทำก็เหนื่อย ไหนๆ ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว ก็ทำไปเถอะ ใจไม่สู้ เปลี่ยนตัว อย่าอยู่…” ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดฝากทิ้งท้าย
ในฉบับยังได้สัมผัสเรื่องราวแห่งตำนานความรักของนายพลมือปราบอย่าง พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข กับ คุณต้อย-นุชนารถ กองวิสัยสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน ) ภริยาคนเก่ง ที่สร้างครอบครัวอยู่กินกันมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่สมัยที่ฝ่ายชายเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจจบใหม่ไปลงโรงพักปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ทั้งคู่ประคับประคองความรักด้วยความเข้าใจและอดทน
“เขาเป็นคนแบบนี้ งานต้องมาก่อน แต่เขาได้เราที่เข้าใจเขา เลยประคองครอบครัวกันมาได้ ถ้าผู้หญิงที่ไม่มั่นคง เราว่าอยู่กับเขาไม่ได้แน่” แม่บ้านผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดระบายความรู้สึก
เธอแนะนำถึงบรรดาแม่บ้านตำรวจด้วยว่า การเข้ามาทำกิจกรรมแม่บ้านตำรวจไม่ได้เป็นผลเสีย เพราะเราไม่ได้เข้าไปสืบว่า สามีเป็นอย่างไร แต่เป็นอะไรที่เราจะเรียนรู้ และรู้จักสามีเรา และผู้บังคับบัญชาหลายคนทำหน้าที่อะไร ระบบงานเป็นแบบไหน ทำให้เราเข้าใจสามีมากกว่าจะมาคอยจับผิด ส่วนที่จะมานินทา อาจมีบ้างในระดับเด็ก สำหรับผู้ใหญ่จะไม่ค่อยมี แต่สามีบางคนไม่เข้าใจจึงไม่ชอบให้ภรรยาเข้ามาทำงานแม่บ้านตำรวจ ทั้งที่เป็นเหมือนงานสังคม งานบางงานจะส่งเสริมสามีด้วยซ้ำ ถ้าไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขามาก ถือเป็นบวกมากกว่าลบ
ตระเวนโรงพักพาเยือนอีสานใต้ คุยกับ พ.ต.อ.พิรพล อัจกลับ อดีตนักสืบนครบาลพลัดถิ่นไปอยู่ภูธรพักใหญ่แล้ว แต่เขายังคงมุ่นมั่นพัฒนาโรงพักที่ไปอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขยับไปเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด ยกระดับการบริการ รวดเร็ว ทันใจ สร้างความประทับใจแก่ชาวบ้านในพื้นที่
ปลูกฝังให้ลูกน้องสำนึกไว้เสมอว่า “คนเรานี้ก็แปลก พอได้รับการเลี้ยงดู ปูเสื่อ ก็ยกย่องว่าเข้าผู้นั้นเป็นคนดีทันที แต่หาได้คิดในแง่มุมกลับกันว่าเขาทำเพื่อหวังประโยชน์อันใด แท้จริงแล้วคือ การสร้างภาพนั่งเอง โดยนักเล่านิทานตัวฉกาจโกหกเพื่อให้ตัวเองดูดี มีผู้คนห้อมล้อม เป็นเกาะคุ้มกันภัยที่ตนก่อขึ้น”
ท้ายสุดอดีตผู้กำกับนักสืบเมืองหลวงย้ำว่า ถึงแม้ตำแหน่งหน้าที่จะเปลี่ยนไป แต่ภารกิจของเรายังคงรับใช้ประเทศชาติและดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข ชีวิตการทำงานหนักเอาเบาสู้ไม่เคยหวาดหวั่น “รับราชการตำรวจกว่า 30 ปี ผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวมานานับประการคุ้มหรือเข็ด แต่ที่แน่ๆชีวิตเกิดมาแล้วต้องสู้” พ.ต.อ.พิรพลว่า
อ่านรายงานพิเศษโครงการอันเนื่องมาจากแนวพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจคัดเลือกนักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 4 จำนวน 16 นาย เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรจิตอาสา 904 เกี่ยวกับ “โคก หนอง นา โมเดล” เป็นการน้อมนำหลักสูตรเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในแต่ละพื้นที่
พวกเขาช่วยกันเนรมิตศูนย์การเรียนรู้ จิตอาสาเศรษฐกิจพอเพียง “โคก หนอง นา โมเดล” ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ส่งเสริมการใช้วิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะส่งผลให้คนในสังคม มีความสุขและเข้มแข็ง มั่นคงอย่างยั่งยืน เป็นรากฐานสำคัญ ที่จะช่วยส่งเสริมให้สังคมไทยมีเสถียรภาพ สามารถพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่งคงต่อไป
กระทบไหล่ กัลยา บุตรกระมล หญิงแกร่งของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนแห่งกำแพงเพชร อดีตนักข่าวเคเบิ้ลท้องถิ่นสาวสวยที่พลิกบทมารับราชการทำงานเสียสละ ยึดแนวพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบของการใช้ชีวิตแบบพอเพียง พอมี พอกิน พอใช้ ไม่หวังที่จะร่ำรวยแต่เพียงอย่างเดียว และดำรงตนอยู่บนความเสียสละตนเพื่อประโยชน์ของส่วนร่วม
เธอยังมีมุมคิดถึงการเป็นผู้หญิงเก่ง ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองอยู่เสมอ เพราะนั่นจะทำให้คุณกล้าคิดกล้าทำ และไม่ทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่น สวยเก่ง อดทน และสามารถเป็นได้ทั้งผู้นำ และผู้ตามที่ดีด้วย ปรับตัวเองให้เข้ากับยุค 4.0
“ผู้หญิงยุคนี้สวย เก่ง อย่างเดียวไม่พอ ต้องสตรองด้วยค่ะ” อาสาสมัครสาวบอกอย่างภูมิใจ
ทำความรู้จัก มนตรี จุ้ยม่วงศรี บรรณาธิการข่าว ศูนย์ข่าวสืบสวน สำนักข่าวอิศรา เจ้าของรางวัล ‘กำพล วัชรพล’ จากวิทยานิพนธ์ด้านสื่อสารมวลชน ประเภทชมเชย ปี 2558 เรื่อง พัฒนาการข่าวยอดเยี่ยม อีกทั้งได้รางวัล มูลนิธิอิศรา อมันตกุล กับการกำหนดบทบาทและแนวทางในการรายงานข่าวเชิงสืบสวนเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน
คนข่าวหนุ่มมากประสบการณ์มีมุมมองหลากหลายในการทำข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนเปิดโปงขบวนการคอร์รัปชัน ประเดิมตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ราชภัฏจันทรเกษม หลังจากเห็นความไม่ชอบมาพากลของผู้บริหารที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการจัดซื้อจัดจ้างเอาบริษัทของลูกชายที่เข้ามารับงาน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพนักข่าวเลาะตะเข็บคนโกงจนความรางวัลความสำเร็จมากมาย
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาสาระดี ๆ คุณภาพพคับเล่มเช่นเดิม
พบกับนิตยสาร COP’S เดือนกันยายน 2561 บนแผงหนังสือ
