ภาพของ “ตำรวจดี-ตำรวจเลว” วัดกันตรงไหนในโลกสังคมก้มหน้า
วัดจากหน้าตาออกสื่อทะลุจอโทรศัพท์มือถือ หรือผลงานอยู่เบื้องหลังฉากของบรรดาพระเอกยิ้มแป้นออกกล้อง
ผลสำรวจจากโพลหลายสำนักถึงทึกทักสรุปชัด
“ผักชี” ย่อมดีกว่า “ปลาเน่า” ที่ถูกเอามาเขย่าในกะลาไซเบอร์
ชีวิตของ ด.ต.วรพล สันติพิรยาภรณ์ ผู้บังคับหมู่กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1 ที่เพิ่งถูกคำสั่งให้ออกจากราชการกำลังกลายเป็นตำนานอันเลวร้ายของ “ตำรวจชั้นเลว”
ข่มขู่ยัดยารีดเงินพ่อค้าส้มตำ 50,000 บาท
“ไอ้พลไม่เคยรังแกคนดี” เสียงรำพันระเหี่ยใจของเพื่อนร่วมงาน
“ไอ้พล ตำรวจขาโหด” อีกเสียงสะท้อนออกจอโทรทัศน์
ด.ต.วรพล สันติพิรยาภรณ์ เป็น 8 ทายาท “มดงาน” รุ่นสุดท้ายของสืบสวนเหนือ ประเดิมกวาด “แก๊งแป๋ง โรเล็กซ์” ปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ชิงนาฬิกายี่ห้อหรูเรือนแพง นำไปสู่ปฏิบัติการ “จับตาย” หัวหน้าโจรประวัติเหี้ยม ก่อนหน่วยเก่าที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังจะล่มสลาย กำเนิดใหม่เป็นกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1
นิสัยส่วนตัวเป็นคนหัก ไม่ยอมงอ ไม่ชอบ “สอพลอ” เอาใจผู้เป็นนาย ไม่ขนขวายเดินเก็บ “เงินส่วย” ส่งผู้ใหญ่ เลือกทำงานตามลำพังจนบางครั้งยอมโดนมองเป็น “แกะดำ” ของหน่วย
เพราะไม่ยอมรับคำสั่งห่วย ๆ ของนายบางคน
เขาเป็นมดงาน “เบอร์หนึ่ง” ในการตามจับกุมยานรกรายย่อย เคยลุยเดี่ยวบุกชุมชนซอยอินทามระที่เต็มไปด้วยแหล่งระบาดของยาเสพติดกระทั่งถูกล้อม แต่เอาตัวรอดออกมาได้โดยความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญไม่ได้หวาดกลัวเครือข่ายค้ายาเสพติด
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2548 ออกติดตามแก๊งยาเสพติดรายย่อยของ ลูกชายนายดาบตำรวจจังหวัดนครปฐม ปรากฏว่า คนร้ายขัดขืนขับรถจักรยานยนต์พุ่งชนขณะกระโดดขวางจนตัวเองบาดเจ็บ มี จ.ส.ต.ธีระวัฒน์ เกิดหอม นักสืบรุ่นพี่ขาหัก
ต่อมาปี 2550 โดนยิงได้รับบาดเจ็บระหว่างเข้าจับกุมเอเย่นต์ยานรก ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท
กระทั่งมีการนำมาโยงใยอารมณ์ “ผูกใจเจ็บ” กลุ่มพ่อค้าส้มตำในอีก 11 ปีถัดมา
ไม่มีใครเคยสนใจว่า ด.ต.วรพล สันติพิรยาภรณ์ เคยได้รับประกาศเกียรติคุณด้านการปราบปรามยาเสพติดดีเด่นจาก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบให้ไว้ในวันตำรวจ 13 ตุลาคม 2553
สมควรแก่การยกย่องสรรเสริญเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจทั้งหลาย
ปีเดียวกัน ยังได้รับวุฒิบัตรผ่านการพัฒนาความรู้ด้านปราบปรามยาเสพติด หลักสูตรการตรวจค้นยาเสพติดจาก พล.ต.อ.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติด
วันนี้เขากลับต้องถือไม้พายไม่มีนายช่วยคัดท้ายเผชิญมรสุมเอาตัวรอดเพียงลำพัง