เส้นทางแม่ทัพเมืองหลวง (3)

ชีวิตนายร้อยตำรวจจบใหม่เดินทางไกลไปลงตำแหน่งโรงพักภูธรเมืองขอนแก่น ใช่จะเริดหรูสวยงามเสมอ

ผู้หมวดสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น เข้าเวรเป็นรองสารวัตรสอบสวน 1 วัน ได้พัก 10 วัน เพราะรองสารวัตรสอบสวนมีประมาณ 12 คน ตกลงสลับกันเองเพื่อจะได้มีเวลาพักยาว

ปรากฏว่า สารวัตรใหญ่รู้ทันเปลี่ยนระบบมาเข้มงวดตอนหลัง

ทำเอาร้อยตำรวจตรีหนุ่มหัวเสีย ประกอบกับถูกพ่อตำหนิ เนื่องจากกลับบ้านทีไรต้องขอเงินทุกครั้ง ทั้งที่พ่อเป็นคนซื้อปืนให้ ซื้อรถให้ มีเงินเดือนแล้วทำไมต้องมาขออีก โดนหาว่าเอาแต่เที่ยวเตร่ ใช้เงินสิ้นเปลือง

มาตบะแตกตอนที่ไปขอเงินพ่อซื้อวิทยุสื่อสาร เพราะสารวัตรใหญ่สั่ง ผู้พ่อเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการเข้าใจว่า ทำไมไม่เบิกของหลวง มาออกเงินซื้อเองทำไม

เก็บความหงุดหงิดกลับไปโรงพัก เมื่อถูกสารวัตรใหญ่จี้ใจดำเรื่องเดิม คราวนี้เขาถึงกับทุบโต๊ะ ขึ้นอั๊ว ขึ้นลื้อ โดนขี้หน้าหาว่าเก๊กใส่

นายตำรวจหนุ่มจบใหม่ลุกขึ้นสะบัดคารมสวนทันควัน

“ผมไม่ได้เก๊ก แต่มันไม่มีตังค์” ก่อนหุนหันพลันแล่นเดินออกจากห้องไป

ไม่นานพาลไปถึงสารวัตรป้องกันปราบปรามด้วย เพราะมีเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจแวะไปเที่ยวห้องอาหารแห่งหนึ่ง เกิดเมาแล้วมีเรื่อง ไม่ได้จ่ายเงิน เนื่องจากเขาพาไปฝากก่อนหน้าแล้ว

เจ้าของร้านฟังผิดคิดว่าเป็นบัญชีของคนขับรถร้อยเวรไปกินเซ็นติดประจำ ตามไปด่าถึงโรงพัก

ลูกชายนายดาบตำรวจม้าดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานควักสตางค์โยนใส่ สมัยนั้นเงินประกันอยู่กับพนักงานสอบสวนจะเก็บไว้กี่วันก็ได้ บอกจะหยิบเท่าไหร่เอาไปเลย ไม่คิดโกง

เจ้าของร้านอาหารกลับไม่พอใจไปฟ้องสารวัตรป้องกันปราบปรามมาถึงไม่ฟังเหตุผลก็ด่ายับ หาว่า คบเพื่อนเลว ว่าเขา ทำตัวเป็นนักเลง พอเขาโมโหเลยบอกจะไปจับร้านอาหารนั้นถ้ายังบ่นไม่เลิก

สารวัตรรุ่นพี่เลยท้าว่า “ถ้ามึงแน่จริง มึงจับทั้งเมืองนะ เว้นสักที่ก็ไม่ได้ ต้องจับให้หมด”

คืนนั้น เขารับคำท้า จัดแจงวิทยุสั่งจับสถานบริการทั่วเมืองขอนแก่นไว้เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม ประจวบเหมาะสารวัตรใหญ่เต้นรำอยู่อีกร้าน เขาสั่งให้หยุดบอกไปว่า “คืนนี้ ผมขอ”

สารวัตรใหญ่คู่กัดเก่าได้แต่พึมพำ “เอากันขนาดนี้เลยหรือ” แต่ไม่กล้าขัด

เจ้าตัวยอมรับว่า สมัยนั้นอารมณ์แรงมาก ดื้อพอสมควร บางครั้งถึงขนาดปิดประตูใส่นาย  เพราะถูกนายโยนสำนวนโวยวายใส่ บอกมึงกับกูมาว่ากันเรื่องสอบสวน กูว่าลูกน้องกูไม่ผิด เขาก็พยายามแจงว่า ไม่ได้บอกว่า ลูกน้องนายไม่ผิด แค่บอกลูกน้องนายเสียเปรียบ

ผู้เป็นนายโมโหทุบปัง ประกาศว่า “เดี๋ยวรู้กัน” แล้วเดินออกจากห้องปิดประตูเสียงดังลั่น  เขาก็เดินตามไปกระชากประตูก่อนกระแทกปิดปังใส่คืนสนั่นโรงพัก

โลดโผนอยู่ในเมืองขอนแก่นนาน 2 ปี จำต้องย้ายสู่ถิ่นทุรกันดารพื้นที่โรงพักอุบลรัตน์ เป็นนายตำรวจหนุ่มสุดของนักเรียนนายร้อยตำรวจที่ไปอยู่ คดีไม่เยอะ ขับรถมาเที่ยวในเมืองทุกคืนเพราะห่างกันราว 40 กว่ากิโลเมตร

ตระเวนราตรีทำอย่างกับเป็น “ตำรวจเพลย์บอย” เพื่อนคนไหนไปหาจะควักกระเป๋าเลี้ยงต้อนรับอย่างดี

ทั้งที่ชีวิตจริง ขายรถ จำนำปืน เอาเงินมาปนเปรอเพื่อนเกลอเป็นประจำ

มีส่วนทำให้หักเหเปลี่ยนเวย์มุ่งสู่กรุงตามแรงหนุนของเพื่อน     

 

RELATED ARTICLES