ปรับทัพสีกากีแบ่งหน้าที่รับปีงบประมาณ 2562
นับปีที่4 บนเก้าอี้การบริหารงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เจ้าตัวยังลงนามคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 571/2561 เรื่องแต่งตั้งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
มอบให้ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็น โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
แต่ยังคงมี พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รักษาราชการแทนจเรตำรวจ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เป็นรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยแบ่งเบาภาระตามเดิม
เป็นการกลับมาเป็น “โทรโข่ง” ขององค์กรตามถนัดอีกครั้งของ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 นายพลหนุ่มวิสัยทัศน์กว้างไกล ผ่านงานวิชาการและประสบการณ์ดูงานตำรวจมาทั่วโลกอีกทั้งยังเป็นมือบุ๋นระดับมันสมอง
ประวัติของเขาเกิดที่เชียงใหม่ เป็นลูกตำรวจชั้นผู้น้อยหน่วยตระเวนชายแดน จบโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เรียนหนังสือเป็นอันดับ 1 ของโรงเรียน เป็นหัวหน้าชั้นตั้งแต่ประถม 1 อยากเป็นหมอ สุดท้ายตามรอยพ่อมาเป็นตำรวจ
จบเตรียมทหารรุ่น 22 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 สอบได้ที่ 1 ทุกปี เป็นหัวหน้านักเรียนนายร้อยตำรวจ เริ่มต้นบรรจุเป็นรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ระหว่างนั้นเรียนปริญญาโทคณะรัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คู่กับสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)คว้าปริญญาโทพร้อมกันทั้ง 2 แห่ง
ได้ทุน PHP Scholarship ของประเทศญี่ปุ่นศึกษาจบชั้น “ปริญญาเอก” ด้านการบริหารการพัฒนาจากนิด้าอีกใบ
เป็นพนักงานสอบสวนอยู่โรงพักชนะสงคราม 4 ปี ย้ายมาเป็นรองสารวัตรแผนกทะเบียนพล กองกำกับกำลังพล กลายเป็นจุดเริ่มต้นเข้ามาอยู่ “สายบุ๋น” เต็มตัว
ไต่เต้าจนขึ้นสารวัตรแผนกทะเบียนพล เป็นรองผู้กำกับการกำลังพล ขึ้นผู้กำกับการกองวิจัยและพัฒนา แล้วโยกกลับมานั่งผู้กำกับการกำลังพล เป็นรองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กระทั่งติดยศนายพลตำแหน่งผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนย้ายเป็นผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ประเดิม “จับไมค์” ออกกล้องเป็นโฆษกศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า กองบัญชาการตำรวจนครบาล และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองกำลังปะทุ ก่อนเป็นโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลควบกับตำแหน่งรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อเนื่อง
ชี้แจงทำความเข้าใจทุกเรื่องในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของตำรวจให้ประชาชนทราบเพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้ง
แม้จะเป็น “เผือกร้อน” ในเวลานั้น แต่ตัวเองไม่เคยปฏิเสธ
ทำผลงานเข้าตากระทั่งเปลี่ยนวิถีมาทำหน้าที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมานั่งเป็นผู้คับการกองบังคับการกองสารนิเทศ หน้างานใหม่ที่ตัวเองไม่เคยคาดคิด
จุดประกาย ปฏิบัติการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ปลุกสื่อที่อยู่ในมือสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจให้เข้มแข็งขึ้น
“หลายสิ่งที่เราคิดและทำอาจถูกมองว่าแหวกขนบของตำรวจ แต่ถ้ามันทำให้เกิดความสงบสุขปลอดภัยและได้ใจพี่น้องประชาชนเราก็จะทำ” พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย วาดไว้เมื่อครั้งเป็นผู้บังคับการกองสารนิเทศ
ผุด “โปรเจกต์พลีชีพ” รวมตัวของตำรวจกองสารนิเทศ ทั้งระดับชั้นสัญญาบัตรและประทวนรวมถึงลูกจ้างที่มีความสามารถพิเศษหลากหลาย เช่น แต่งหน้า ทำผม ทำขนม สอนหนังสือ ศิลปะ ประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เต้น แต่งเพลง เล่นดนตรี เป็นพิธีกร เล่นตลก ออกไปประชาสัมพันธ์เชิงรุกนอกสถานที่ก็จะระดมกำลังความคิดเตรียมกิจกรรมและเนื้อหาข้อมูลที่จะไปประชาสัมพันธ์ให้เหมาะกับสถานการณ์
ภายใต้แนวความคิด “ต้องคิดให้ดีและทำให้โดน สุดความสามารถ สุดความเป็นมนุษย์ เสมือนหนึ่งว่านี่คือวันสุดท้ายของการมีชีวิตอยู่ โดยมีจุดมุ่งหมายคือ การเข้าไปอยู่ในใจประชาชน
เมื่อคืนกลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้งจึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากของนายพลหนุ่มใหญ่คนเก่งดีกรีระดับด็อกเตอร์
ประกาศชัดที่จะมาสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร
ไม่ใช่มาสร้างภาพตัวเอง !!!