ผู้การกองปราบสั่งตามพฤติกรรมนักข่มขืน

ข้อมูลสถิติคดีข่มขืนกระทำชำเราพุ่งสูงขึ้นตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน

หญิงสาวทุกคนมีสิทธิตกเป็นเหยื่อคนร้ายได้ทุกนาทีที่มีช่องโอกาสเหมาะ

บางทีผู้จ้องกระทำความผิดทางกามรมณ์นั้นอาจเป็น “คนใกล้ตัวด้วยซ้ำ”

ปัจจัยเสี่ยงไม่ใช่ เพราะตัวเหยื่อสาวแต่งกายล่อแหลม แต่มีผลกระทบจากโลกโซเชียลไร้ขอบเขต ปล่อย “หนังวาบหวิว คลิปโป๊” ชวนให้เกิดอาการกำหนัดผ่านจอโทรศัพท์มือถือ รวมถึงเรื่องพิษภัยของยาเสพติดที่ระบาดหนักไปทั่วทุกพื้นที่

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม ถึงให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะถือเป็น “ภัยประจำวันใกล้ตัว” ในหญิงทุกวัยที่ตำรวจต้องจัดการให้เด็ดขาด ไม่ให้พวก “หื่น” ออกอาละวาดกระทำความผิดซ้ำซาก

โดยเฉพาะเหตุล่าสุดที่กลุ่มวัยรุ่นรุมโทรมเด็กหญิงในจังหวัดสระบุรี กลายเป็นเรื่องสะเทือนขวัญชาวบ้านสะท้อนปัญหาสังคมเสื่อมในปัจจุบัน

ผู้บังคับการปราบปรามมองตามหลักอาชญวิทยามีความเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อคดีกระทำความผิดทางเพศมีแนวโน้มจะกลับมาก่อเหตุซ้ำขึ้นมาอีก

หากยังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี

ที่ผ่านมา เขาได้กำชับลูกน้องให้ติดตามผลหรือผู้ก่อเหตุเหลานี้ที่พ้นโทษจากเรือนจำเพื่อทำประวัติและติดตามพฤติกรรมป้องกันการหวนกลับมาลงมือหื่นกามกับผู้บริสุทธิ์อีกครั้งตามทฤษฎีอาชญากรรมเกี่ยวกับความผิดทางเพศ

ถึงกระนั้น หน่วยงานกองปราบปรามมีภารกิจติดตามคดีมากมายหลายท้องที่ย่อมไม่เพียงพอจะจัดระเบียบจัดการ “นักข่มขืน” ได้อย่างชะงักงัน พล.ต.ต.จิรภพ ถึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยจัดการเป็นเจ้าภาพและเห็นความสำคัญของคนร้ายที่กระทำความผิดทางเพศ

อาทิ ออกกฎระเบียบให้คนร้ายที่พ้นโทษในคดีลักษณะดังกล่าวต้องไปรายงานตัวสถานีตำรวจที่ผู้นั้นพำนักอยู่ในทุกๆ 2-3 เดือน หรือรายงานตัวเมื่อเปลี่ยนที่อยู่

ถ้าไม่มารายงานตัวตำรวจท้องที่นั้นต้องออกหมายจับ

“เราต้องทำเพื่อให้รู้ความเคลื่อนไหวของผู้ที่เคยก่อเหตุข่มขืน อนาจาร หรือพรากผู้เยาว์ เป็นการป้องกันและควบคุมไม่ให้มีเหตุเกิดขึ้นมาอีกจากคนร้ายคนเดิม มีการทำประวัติ เก็บลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอไว้เปรียบเทียบ เมื่อมีเหตุขึ้นมาจะได้ติดตามตัวง่ายขึ้น” ผู้บังคับการปราบปรามว่า

ถือเป็นมาตรการเข้มที่จะลดช่องโอกาส “คนร้ายหื่น” ช่วยป้องกันเหตุรุนแรงทางเพศกับเหยื่อสาว

ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก “กองปราบปราม” ยังช่วยประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับคดีทางเพศไว้ประกอบการแจ้งความดำเนินคดีด้วยว่า

 “แต่แหย่=ข่มขืน” คือ การกระทำชำเรา หรือการข่มขืน นอกจากจะหมายถึง การที่คนร้ายใช้อวัยวะเพศของตนกระทำกับอวัยวะเพศของเหยื่อแล้ว

การกระทำชำเรายังหมายความรวมไปถึง

1.การที่คนร้ายใช้อวัยวะเพศของตน กระทำกับ ทวารหนัก หรือ ช่องปาก ของเหยื่อ

2.การที่คนร้าย ใช้สิ่งอื่นใด กระทำกับ อวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก ของเหยื่อ โดยคำว่าสิ่งอื่นใดนั้น ยกตัวอย่างเช่น ปากกา อวัยวะเพศปลอม นิ้วมือ หรือวัตถุอื่นใด ที่คนร้ายใช้สอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ หรือ ทวารหนักของเหยื่อ และแม้จะไม่สำเร็จความใคร่(ไม่เสร็จ)

ถือว่ามีความผิดฐานกระทำชำเราแล้ว ความผิดสำเร็จตั้งแต่เริ่มทำแล้ว

ดังนั้นถ้าคนร้ายได้กระทำการที่มีลักษณะตาม ข้อ 1. และ ข้อ 2. เพื่อสนองความใคร่ของตนเอง ก็ถือว่า เป็นการกระทำชำเรา

มีโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญาทันที

RELATED ARTICLES