มีจดหมายส่งมาทางออนไลน์จาก คณะผู้บริหารและสมาชิกเครือข่ายเพื่อนตำรวจ ขอให้เป็น “สื่อกลาง” เผยแพร่เรื่องราวที่อยากระบายความในใจ
ส่งไปถึง ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจและ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เคารพอย่างสูง
เรื่อง ปรับเปลี่ยนนโยบายบริหารบุคลากรตำรวจให้ตรงสายงาน และกำหนดภารกิจหน้าที่ตำรวจให้ชัดเจนไม่ซ้ำซ้อนหน่วยงานอื่น
ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีบทเรียนมากพอมายาวนาน กรณีตำรวจเครียดฆ่าตัวตายศพแล้วศพเล่า เพราะการรับสมัคร/บรรจุแต่งตั้ง/เลื่อนยศตำแหน่ง ไม่ยึดถือตามคุณสมบัติภารกิจงานและไม่ส่งเสริมกำลังพลให้เติบโตมีความเชี่ยวชาญสายงานเดิม
จะเห็นได้จากการย้ายงานที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปีในหลายยุค
ตำรวจถูกย้ายแต่งตั้งทำหน้าที่ไม่ตรงสายงานถนัด หากไม่เปลี่ยนแนวคิดนโยบายบริหารงานใหม่ จะมีศพเพิ่ม..ทั้งคนสั่งย้าย และคนถูกย้าย เพิ่มอีกเท่าไร
ถึงเวลาที่ยุคฟ้าสว่างแล้ว
“กระผมและเพื่อนข้าราชการตำรวจ ขอความเมตตาท่านซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดของตำรวจอยู่ในจุดที่มีมุมมองสูงและมีวิสัยทัศน์ไกล ได้กรุณาปรับเปลี่ยนแนวคิดนโยบายการบริหารงาน บริหารคน บริหารงบประมาณใหม่ ให้ตรงสายงานและภารกิจตรงกับสายงาน เพื่อให้กำลังพลตำรวจทุกหน่วย ทั้งประเทศ ได้มีขวัญกำลังใจ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพให้ตรงกับสายงานที่เค้าสมัครเข้ามาและส่งเสริมให้เก่งเชี่ยวชาญเติบโตก้าวหน้าในสายงานนั้น ๆ”
สำหรับภารกิจใดของตำรวจที่เกี่ยวข้องเป็นหน้าที่หลักหน่วยงานอื่น เห็นควรเชิญผู้เชี่ยวชาญงานนั้น ๆมาร่วมปฏิบัติงาน หรือให้คำปรึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานการทำงานตำรวจ
แต่ไม่ใช่เชิญมาเป็นผู้มีอำนาจสั่งการซ้ำซ้อนกัน หรือไม่ควรเอางานของหน่วยงานกระทรวงอื่นมาเป็นภารกิจประจำ เป็นเหตุให้ตำรวจต้องแบกภารกิจอื่นเกินกำลังทำภารกิจหน้าที่หลักตัวเอง โดยไม่มีกำลังพลเพิ่ม ไม่มีงบประมาณในงานนั้น ๆให้
“ควรคาดโทษที่เกินความสมควร เช่น ไม่ควรย้ายตำรวจท้องที่เมื่อหน่วยงานหลักกระทรวงอื่นมาปฏิบัติตามหน้าทีของเขา แต่ควรส่งเสริมให้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจมีความสามัคคีในการทำงานประสานกัน”
เพราะตำรวจท้องที่รับภาระงานที่หนักมาก ต้องมีความมั่นคงในการดำเนินชีวิตการงานและครอบครัว หากมีการย้ายงาน ย่อมต้องเดือดร้อนครอบครัวและไม่มีความมั่นคงในการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อตำรวจอ่อนแอทั้งสภาพจิตใจและการดำเนินชีวิตครอบครัวที่ย่ำแย่จะทำให้ภารกิจหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่บรรลุตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายได้
ยิ่งมีการสั่งการเพิ่มขึ้น กดดันตำรวจผู้ปฏิบัติงานมากขึ้น ยิ่งทำให้หน่วยงานตำรวจทำได้ไม่มีดี ไม่ประสิทธิภาพ แค่ทำให้ทันเท่านั้น ย่อมส่งผลกระทบใหญ่หลวงโดยตรง ทำให้ตำรวจไม่สามารถป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันต่าง ๆ ที่เป็นภัยร้ายแรงของประเทศชาติได้
ทำให้ตำรวจหมดกำลังใจไม่มีจิตวิญญาณทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนสุจริตชนได้อย่างแท้จริงสมกับคำว่า “ตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”
“ผมไม่อยากพี่น้องตำรวจเราตายฟรีเพิ่มอีก” เจ้าตัวว่า และขอนำเรียนท่านผู้มีอำนาจได้แค่นี้
ในฐานะตำรวจตัวเล็ก ๆจบเตรียมทหาร 2 ปี นายร้อยตำรวจ 4 ปี รับราชการตำรวจมา 28 ปี เติบโตตามสายงานปกติ ไม่วิ่งเต้น วิ่งตั๋ว ไม่สลับห้วยไม่สลับสาย ไม่ซื้อยศ ไม่ขอตำแหน่ง ขอทำหน้าที่ตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างมีศักดิ์ศรี ในยศ พันตำรวจโท จะไม่ขอเหยียบหัวพี่ ไม่เตะเพื่อน ไม่เสียบน้อง ไม่ฟ้องนาย
“ผมรอวันที่ฟ้าสว่าง สวรรค์มีตา ส่องมองเห็นความต้องการจากหัวใจตำรวจใฝ่ดีมีใจรักอาชีพตำรวจ ไม่เคยคิดทิ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
เราเป็นลูกน้องของท่านจากตำรวจกว่า 200,000นาย ทั่วประเทศ “กระผมและพี่น้องตำรวจหวังอย่างยิ่งว่าท่านจะเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีที่มาช่วยเหลือให้ตำรวจทั้งประเทศมีขวัญกำลังใจทำงาน สามารถทำงานในหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งมีเกียรติมีศักดิ์ศรี”
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ