เรื่องราวของความสมัครใจบางครั้งใครก็บังคับไม่ได้
คำสั่งไม่ชอบธรรม กำลังกำหนดชะตากรรมของตำรวจกลุ่มหนึ่ง
เขาเขียนระบายความอึดอัดอยากติดต่อ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติบางคนคิดได้ว่า สิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้อง
เจ้าตัวร่ายรายละเอียดว่าเป็นตำรวจที่โดนบังคับให้เข้ารับการฝึกเพื่อโอนไปหน่วยอื่นที่ไม่ใช่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตอนนี้ มีทั้งนายตำรวจและชั้นประทวนได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดจำนวนไม่น้อย
“ผมอยากให้ท่านรู้ว่า พวกผมผิดอะไร หากพวกผมไม่ไปฝึก ทำไมต้องให้พวกผมลาออก” เขารู้สึกน้อยใจในโชคชะตาตัวเอง
หลังจากมีหนังสือออกมาสอบถามความพร้อม ส่วนมากตอบ “ไม่พร้อม” แล้วทำไมถึงมีรายชื่อไปฝึก
นี่หรือที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำกับลูกน้องตัวเอง
“ผมเหมือนโดนหลอก เหมือนพ่อแท้ ๆของตัวเอง หลอกขายลูกตัวเองให้หน่วยงานอื่น”
นี่คือสิ่งที่ข้าราชการตำรวจชั้นดีชั้นเลิศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดนกระทำ
เจ้าตัวอยากรบกวนเพจนิตยสาร COP’S ช่วยเป็นกระบอกเสียงฝากไปถึงท่าน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ด้วย
“พวกผมจะสู้ทุกทาง ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง ยังมีครอบครัว พ่อแม่ ลูกเมียที่โดนผลกระทบจากการกระทำของผู้ใหญ่บางคนที่อยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
อยากถามผู้ใหญ่คนนั้นจริง ๆว่า ท่านกำลังทำอะไรกับพี่น้องตำรวจ
“ท่านเห็นพวกผมเป็นทาส หรือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา”
เขาบอกด้วยว่า ตอนแรกทุกคนสมัครใจอยากไปรับใช้หน่วยงานหนึ่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำไปทำมากลับโดนบังคับให้เขียนใบสมัครใจพร้อมที่จะโอนเข้าไปเป็นข้าราชการหน่วยอื่น
หลายคนชะงักและลังเล
ผู้บังคับบัญชาในหน่วยบอกให้ตอบไปเถอะว่า “พร้อม”
มาพีคเอาตอนจะเข้ารับการฝึกจริงว่า “ถ้าคนไหนไม่พร้อม ให้เขียนใบลาออกตอนนี้เลย”
ข้อเท็จจริงหลายชีวิตต่างมีครอบครัว มีภาระลูกเมีย ลาออกไม่ได้
พวกเขาไม่รู้เหมือนกันว่า จะตัดสินใจเดินหน้าก้าวต่อไปทางไหน จิตวิญญาณความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หดหาย เมื่อ “ผู้เป็นนาย” ต่างพากันเอาตัวรอด
ทำให้นึกถึงหนังสือขอลาออกที่ว่อนไปตามโลกโซเชียลของนายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งในภาคอีสานก่อนหน้านี้ที่เจ้าตัวอ้างเป็น “ของปลอม” แต่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีในภารกิจเตรียมย้ายสังกัดครั้งนี้ด้วย
นายตำรวจยศ พ.ต.ต.ที่กำลังมีอนาคตไกลยืนเสนอผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน ระบุวันเวลาเข้ารับราชการเมื่อปี 2550 ปัจจุบันได้รับเงินเดือนระดับสัญญาบัตร 2 ขั้น 19.5 อัตรา 28,430 บาท
มีความประสงค์ของลาออกจากราชการ ให้เหตุผลว่า “ข้าพเจ้าไม่มีความสุขและหมดศรัทธาที่จะเป็นตำรวจอีกต่อไป”
เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการที่จะโอนไปยังหน่วยอื่น โดยไม่มีความสมัครใจ ทั้งที่ได้ชี้แจงเหตุผลไปแล้ว
“การบังคับให้ข้าพเจ้าโอนไปยังหน่วยนั้น ไม่เป็นไปตามความมุ่งหมายของข้าพเจ้าที่ได้สอบแข่งขันและผ่านการคัดเลือกเข้ามาเพื่อรับราชการตำรวจ”
จึงมีความประสงค์ขอลาออกจากราชการเพื่อไปประกอบอาชีพอื่น ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2562
ก่อนเส้นตายที่ต้องเข้ารับการฝึกวันที่ 1 ตุลาคม 2562