ระวังไว้ดีกว่ามาเสียใจภายหลัง
ส.ต.ท.หญิง สมฤทัย รองทอง ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 2 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจสาวค่ายพลร่มนเศวรเคยโดนหัวเราะเยาะ
เพราะพก สายรัดห้ามเลือด (Tourniquet)
“น้องพกทำไม แถวนี้ไม่มีระเบิดหรอก ใครจะขาขาดวะมึง” คำพูดประชดประชันขำขันกลายเป็นรอยบาดในใจของเธอมาตลอด
เธอได้ยินจนชิน โดนมองเป็นตัวประหลาด แล้วหัวเราะ
“เพราะคุณไม่เคยเปิดใจ และศึกษามันไง คุณเลยเห็นว่ามันตลก เห็นว่ามันไม่จำเป็น ทั้งที่จริงแล้ว ตำรวจควรที่จะทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ไปจนถึงขั้นสูง ( Advanced) ได้ด้วยซ้ำ” เจ้าตัวว่า
ผู้หมู่สาวรักงานสายบู๊ แต่แทบไม่ได้ออกไปในสมรภูมิรบ จบหลักสูตรอบรมสารพัด อาทิ หลักสูตรช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปฐมพยาบาลในภาวะฉุกเฉิน( First responder course) ของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐอเมริกา
หลักสูตรความปลอดภัย และการวางแผนยุทธวิธีเชิงยุทธการขั้นสูง (Advanced tactical safety and planing) ของสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือไอเลีย และหลักสูตรเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติด (Narcotics Investigations ) ของสถาบันไอเลีย
เธอมองว่า เหตุ Active shooter หรือ การปล้นอย่างบ้าคลั่ง ทุกเหตุการณ์ เกิดในสถานที่สาธารณะทั้งหมด
“เราควบคุมไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเกิดเหตุ แต่ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่ เราจะรู้ และเราสามารถควบคุมได้ว่าเราจะพก อะไรติดตัวเราไปบ้าง”
เป็นเหตุผลที่ทำไมเธอต้องพก Tourniquet (TQ) สายรัดห้ามเลือด ไว้ตลอดเวลา
เนื่องจากมันเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์จากการที่เลือดออกมาก แขนขาด ขาขาด แผลโดนยิง หรือแผลขนาดใหญ่
เหมาะกับตำรวจทุกสายงาน ตั้งแต่งานที่ต้องลงพื้นที่เสี่ยง งานสนาม งานสืบ งานจราจร หรือแม้กระทั่งสายตรวจที่ต้องออกไปเจอประชาชนไปเจอเหตุระหว่างทาง
“มันจะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถ เซฟชีวิตคน ก่อนที่รถพยาบาลจะมา ก่อนที่เราจะทำการส่งคนเจ็บต่อไปที่โรงพยาบาล” มันเป็นภาพความเคยชินสำหรับเธอ
หมู่สาวตำรวจตระเวนชายแดนทิ้งท้ายฝากไว้ว่า การปฐมพยาบาลเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว และมีความสำคัญมาก อยากให้ผู้บังคับบัญชา หรือหน่วยงานต่าง ๆ เล็งเห็นถึงเรื่องนี้
ยุคนี้ทีมปฏิบัติการ หรือชุดออกทำงานในพื้นที่จริง ทุกคนในทีมควรจะต้องสามารถทำหน้าที่แพทย์ได้ หรือน้อย ๆ มี แพทย์ในทีม
ทีมละ 1 คนก็ยังดี
