ภาพที่ไม่ต้องสร้าง
ภาพที่ไม่ต้องอธิบายด้วยคำสวยหรู เมื่อดูแล้วจะเห็นคำตอบชัดเจนถึงคำว่า “ชีวิตครอบครัวตำรวจ”
ครอบครัวที่จำเป็นต้องเสียสละเสาหลักไปดูแลรักษาความสงบปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคนอื่น
หลายคนตื่นมาแทบไม่เห็นหน้าพ่อ
อีกหลายคนก่อนหลับอยากนอนกอดเก็บไออุ่นของพ่อสักคืน
ใครไม่ได้เป็นสายเลือดตำรวจอาจไม่รู้สึกความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวยามที่หัวหน้าครอบครัวต้องไปปฏิบัติหน้าที่
หน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ทว่าเบื้องหลังของหลายคนบ้านแตกสาแหรกขาด
กำลังใจบำรุงขวัญพวกเขา บางทีไม่ใช่ “ผู้เป็นนาย” เพราะสุดท้ายมันคือ “ครอบครัว”
ภารกิจควบคุมฝูงชนเที่ยวล่า ขุมกำลังหลายหน่วยถูกระดมเข้าเมืองหลวงเพื่อคุมสถานการณ์การลุกลามของ “กลุ่มคนคิดต่าง” กระทั่งกลายเป็นประเด็นบาดหมาง โดนตีตรา “ตำรวจทำร้ายประชาชน” จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563
แม้ ด.ต.ศราวุธ คำพิลา ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุม ระหว่างวันที่ 20-26 ตุลาคม 2563 ถัดจากเหตุการณ์ร้อนครั้งประวัติศาสตร์ใจกลางกรุงเพียงไม่กี่วัน
แต่เครื่องแบบของเขาเลอะคราบที่ถูกป้ายสี “ความชิงชัง” ไปเรียบร้อยแล้ว
เขาต้องจากครอบครัว ลูกแก้ว เมียขวัญ ไปทำหน้าที่เพื่อเรียกคืนความสงบให้แก่แผ่นดิน เช่นเดียวกับอีกหลายครอบครัว
เกือบทุกคืน นายดาบตำรวจภาคอีสานวีดิโอคอลคุยกับลูกสาวที่ร้องไห้คิดถึงพ่อ
“รอหน่อยนะลูก พ่อก็คิดถึงลูกเหมือนกัน” เป็นคำพูดปลอบขวัญลูก
ลูกน้อย 2 คนอาจจะยังไม่เข้าใจโลกความเป็นจริง
บางทีโหดร้ายรุนแรงกว่าที่พวกเธอเห็น
เนื่องจากหลายครอบครัวได้เพียงร่างไร้วิญญาณนอนอยู่ในโลงศพมี “ธงชาติคลุม” ส่งกลับมาถึงมาตุภูมิ ท่ามกลางน้ำตาเสียงร้องเรียกหาของครอบครัวที่สูญเสียเสาหลักไปตราบนิรันดร์
สำหรับครอบครัว “คำพิลา” ถือว่าโชคดี
นายดาบตำรวจกลับบ้านอย่างปลอดภัยภายหลังได้หยุดพักจากภารกิจสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
คลิปภาพของลูกสาววิ่งเข้ามาโผกอดผู้เป็นพ่อกระจายว่อนทั่วโลกออนไลน์
สิ่งเหล่านี้ คือ “ครอบครัวตำรวจ” ที่จำเป็นต้องเสียสละ
เพราะเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ !!!