เหมือนผีที่ชอบบอกว่ามี แต่ไม่ค่อยมีใครเห็น
ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ผู้มีอำนาจมักออกมาพ่นน้ำลาย ไม่มีบ่อนการพนัน ไม่มีซ่องโสเภณี ไม่มีการค้าประเวณีในสถานอาบอบนวด สถานบริการปิดตามเวลา ผับบาร์ไม่มีมั่วสุมเสพยาเสพติด
ขนาดสลากกินแบ่งรัฐบาลยังกล้าพูดได้เต็มปาก “ไม่พบขายเกินราคา”
ไม่รู้จะพูดเอาโลกสวยขนาดไหน
มหกรรมเบิกฤกษ์ “จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์โฉมใหม่” ที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำเสนอความภาคภูมิใจของแผนปฏิบัติการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นชอบ
หลังถูก “เซตซีโร่” แช่แข็ง อดอยาก ปากแห้ง มานานเกือบ 6 เดือน
ประเดิมคืนแรก 1 เมษายน 2564 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลออกมาระบุว่า มีการตั้งด่านทั้งหมด 50 จุด เป็นด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ 13 จุด ด่านกวดขันวินัยจราจร 37 จุด
มีผลการจับกุมผู้ขับขี่รถระหว่างเมาสุรา 28 ราย บางรายมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 123 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก 39 ราย
ทว่าภาพดูเหมือน “ฝูงหัวปิงปอง”จ้องล่าเหยื่อบนท้องถนนหลวง แต่ไม่ใส่ใจ “ดมกลิ่น” หาโจรผู้ร้ายที่เพ่นพ่านอาละวาดเกลื่อนเมือง
อาจเพราะ “ค่าหัวคนเมา” มีราคามากกว่า “ค่าตัวคนร้าย” ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ไปจนถึงฆาตกรรม
พล.ต.ต.จิรสันต์ย้ำว่า เบื้องต้นจะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเป็นหลักในกรณีผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก “แต่กรณีขับขี่ขณะเมาสุรา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ เมื่อทำการตรวจสอบพบก็ต้องส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย”
สำหรับผลงานตระการตากำลังพิสูจน์ความโปร่งใสของ “หน่วยหัวปิงปอง” ได้จริงหรือ
ลำพังแค่คืนต่อมาในการกลับมาฟื้นชีพของ “จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์” ก็เกิดเรื่องเล่าในวงเหล้ามากระจายให้อ่านกัน
หญิงสาวคนหนึ่งดื่มเบียร์ไป 1 ขวดขับรถฮอนด้า แจ๊ซ ออกจากบ้านจะไปรับแฟนหนุ่ม แต่ดันไปเจอจุดตรวจ “เป่าเมา” ฝูงใหญ่คึกคักขึงขังบริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
เธอขับรถเข้าด่านด้วยอาการกระวนกระวายกลัวปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกำหนดของกฎหมาย “เมาแล้วขับ”
เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่า คนที่เชิญลงจากรถไปเจรจาความ “ยศอะไร ชื่ออะไร” เพราะความตกใจ และความเป็นหญิงสาวชาวบ้าน
ตำรวจประจำจุดตรวจพูดจาตรงไปตรงมาท่าทางเป็นมิตรให้เธอฉุกคิด
“ถ้าเป่าแล้วเกินก็ต้องโดนดำเนินคดี”
เธอถามว่า ต้องทำอย่างไร ในกระเป๋าสตางค์มีเงินติดตัวแค่ 500 บาท
หัวปิงปองนายนั้นพยักพน้า เธอควักเงินในกระเป๋าให้ ก่อนปล่อยผ่านจุดตรวจออกไปอย่างเฉียดฉิว
เรื่องนี้รับรองเป็นความจริง ไม่ได้ใส่ความตามประสาคนเมาแล้วพาลโยนผิดให้ “จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์โฉมใหม่”
“บางคนขับรถเบนซ์มาโดนไป 3,000 บาทเลยครับ” แฟนหนุ่มให้ข้อมูลเพิ่มเติม
สุดท้ายป่วยการที่จะตามทวงคืน ตามหาคนร้อง และอย่าตามหา หัวปิงปองหิวกระหาย รายนี้
แค่อยากนำมาเล่าสู่กัน
เนื่องจากพวกเขาตั้งฉายาเป็น “โจรห้าร้อย”
เป็น “พฤติกรรมนอกแถว” ของบางคน ไม่ได้เหมารวมหมดทั้งกลุ่ม
“มีมาตรฐานสากล ใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกไว้
รู้สึกขำแต่หัวเราะไม่ออก