บทความของ รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองคณบดีแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล น่าจะนำมาเล่าขานส่งต่อหลายองค์กรในยามสถานการณ์ สงครามไวรัสล้างโลก
คุณหมอบอกว่า ศึกกับเชื้อไวรัสโควิด19 ยากน้อยกว่าศึกกับคน
เรารู้จักเชื้อนี้ดีพอควร อยู่ที่กลยุทธ์ ในการรับมือ
“การศึกไม่ได้เอาแต่สั่ง”
แผนตอนที่มีเชื้อในบ้านน้อย ใช้กับสถานการณ์ตอนที่มีเชื้อในบ้านเยอะไม่ได้
การตาม ไทม์ไลน์ และ bubble and seal เหมาะกับ จังหวัดที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อหรือผู้ติดเชื้อน้อย
ในที่ไม่มีผู้ติดเชื้อมากมาย อาจใช้การแยกผู้ป่วยออก แต่ในที่ๆ มีผู้ติดเชื้อมากมาย การบรรเทาความเดือดร้อน “เป็นเรื่องของขวัญและกำลังใจ”
การแยกผู้ป่วยยังจำเป็นอยู่ แต่ต้องเข้าใจว่า โรคนี้ มีผู้ป่วย ที่ไม่มีอาการด้วย การแยกด้วยอาการ วัดไข้แบบเดิม อาจจะไม่ได้ผล
หลักการรับมือ โรคนี้ยังเหมือนเดิม 1)แยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ไม่ติดเชื้อ 2) ป้องกันไม่ให้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ไม่ให้ติดเชื้อ 3)ให้วัคซีนที่ได้ผลครอบคลุม(วัคซีนต้องปรับตามเชื้อกลายพันธุ์) และ มาตรการอื่นๆที่จำเป็น 4)รักษาคนเจ็บ 5)ให้คนไม่ติดเชื้ออยู่รอดและทำงานได้
จาก 5 หลักนี้ ใช้ได้ไม่ว่า โรคจะมากหรือจะระบาดน้อย
ผู้บริหารจำต้อง มองเกมให้ขาด ถ้าไม่สามารถแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ไม่ติดเชื้อได้ ปัญหาจะไม่จบ
“ข้อ 5)ให้คนไม่ติดเชื้ออยู่รอดและทำงานได้ ก็จะไม่เกิด” .
งานที่ด่วนที่สุด คือ แยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ไม่ติดเชื้อ ขณะนี้ มีคนที่สงสัยและป่วยอยู่ตามบ้านมากมาย ต้องมีที่ให้เขามาอยู่รวมกัน และคัดกรองแบบรวมศูนย์ ที่คนหนักก็ดูแลมาก คนหนักน้อย ก็มีที่พัก
grade ของที่พักขณะนี้ อาจจะไม่ต้องเป็นระดับ hospital แต่ อาจจะเป็น “ค่ายผู้อพยพ” (community isolation) สำหรับผู้ที่ไม่สามารถกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยไม่ติดโรคให้คนอื่นได้
“ค่ายอพยพ” นี้ ต้องมีระบบ คัดกรองที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากใครสงสัยว่าติดเชื้อ และ ATK เป็นบวก ก็มาที่ศูนย์ได้ สามารถแยกเป็น zone ได้ zone ยืนยันแล้ว ก็เหมือน hospital, Zone รอยืนยัน ก็มีการดูแล
คนอาการหนักก็มีการส่งต่อ
การระบายผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน ไม่ให้คงอยู่ในชุมชน ก็จะดีขึ้น ความรุนแรงของโรคก็น้อยลง
ข้อนี้ เป็นกลยุทธ์ ที่สำคัญสุดตอนนี้ และ เร่งด่วน “สำคัญกว่าเรื่องวัคซีน”
ทำเหมือน hospital หรือ จุดพักคอย (แต่ ควรมีศักยภาพที่พร้อมกว่านี้) แค่ หน่วยงานกลางบอก เอกชน ก็ยินดีทำตามและสนับสนุนแล้วครับ
คนที่เคยวาง “ยุทธวิธีการรบ” ตลบหลังทางการเมืองได้อย่างแนบเนียน สามารถทำเรื่องแค่นี้ได้อย่างแน่นอน
เพียงแต่ ก่อนหน้านี้ “ไม่รู้นิสัยข้าศึก” หรือมองนิสัย “ข้าศึกเชื้อโควิด 19 ไม่ขาด”
“นิสัยข้าศึก” มีแค่นี้เองครับ 1) ติดจากคนไปคน 2)มีช่วงที่แพร่โรคได้โดยไม่มีอาการ 3)หลัง 14 วันจะไม่ติด 4) ตอนนี้ อาการหนักเกิดเร็วใน 7 วัน 5) ฉีดวัคซีนก็ยังติดได้ แต่อาการน้อยลง
วางแผนช่วยคนทำงานเถอะครับ ท่านทำได้แน่นอน ไม่ใช่ “ให้ไปคิดมา”
ปกติ เวลาสอนแพทย์ คุณหมอย้ำว่า บอกเขาให้ไปคิดมา คือ เรามีวิธีแล้ว แค่ทดสอบเขาว่า เขาจะทำได้ไหม