จากเหตุการณ์เมื่อคืนเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 กลุ่มคนร้ายปาระเบิดใส่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เป็นเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสมีแผลฉีกขาดบริเวณหน้า ตาขวา และมีเลือดออกในสมอง เหตุเกิดบริเวณซอยต้นโพธิ์ เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควบคุมการสืบสวนด้วยตัวเอง มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เป็นหัวหอกชุดสืบสวนเฉพาะกิจชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กองบังคับการสืบบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามรอยสืบสวนหาตัวคนร้าย และขยายผลไปหาต้นตอของวัตถุระเบิดนานเกือบเดือน
กระทั่งสามารถคนร้ายอยู่ในกลุ่มชื่อ “ก็มาดิแก๊ส” มีพฤติกรรมนิยมใช้ความรุนแรง ผลิตวัตถุระเบิด เจตนาจงใจใช้ในการขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ นำไปสู่ ยุทธการ ( operation ) “ปิดเกมกลุ่มก็มาดิแก๊ส” ตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
สั่งการให้ทีมสืบสวนสอบสวนชุดเฉพาะกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผู้กำกับการกลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 7 กองบังคับการอำนวยการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอำนาจเจริญ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปากคลองสาน
จับกุม นายไพฑูรย์ สิงห์จารย์ อายุ 20 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ 378 หมู่ 7 ตำบลบ้านโภชน์ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่บ้านพักเลขที่ 47/28 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และจับกุม นายสุขสันต์ แก้วยศ อายุ 19 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ 1008 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านโภชน์ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่หน้าเซเว่นอิเลฟเว่น สาขาอร่ามศรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ดำเนินคดี ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ และร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่ายี่สิบห้าคนในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด , มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ , เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมตาม มาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่ยอมเลิก ,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ”
ขยายผลยึดของกลางเป็นวัตถุคล้ายระเบิดพันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ 25 ลูก ประทัดลูกบอลไล่นก 2 ถุง ดินประสิว 2 ถุง ดินประสิวบดแล้ว 1 แก้ว กำมะถัน 1 ถุง ลูกแก้ว 1 ถุง (160ลูก) พลุไฟ 6 อัน หนังสติ๊ก 2 อัน .ก้อนหิน 1 กระสอบ 1 ถุง เทปพันสายไฟสีดำ 2 ม้วน เครื่องแต่งกายวันเกิดเหตุ เสื้อ กางเกง รองเท้า โทรศัพท์ที่ใช้งานช่วงเกิดเหตุ 2 เครื่อง ธง ป้ายผ้า แสดงสัญลักษณ์และข้อความ 2 ผืนรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กฐ 6954 เพชรบูรณ์ ซุกอยู่ในบ้านพักเลขที่ 47/28 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเองยอมรับสารภาพว่า เข้าร่วมชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง ขี่รถจักรยานยนต์นำระเบิดที่ทำเองขนาดเท่ากำปั้นมือ พันเทปสีดำ ติดตัวไปด้วยประมาณ 7-9 ลูก ใส่ในกระเป๋าสีดำสะพายหลัง สลับกันสะพาย เมื่อถึงสามเหลี่ยมดินแดงได้นำผ้าคลุมตัวสีแดง และโพกผ้าศรีษะสีแดง ขว้างระเบิด 1 ลูก และขว้างระเบิด อีก 2 ลูกใส่อุโมงค์ขณะที่ตำรวจควบคุมฝูงชนขับรถผ่าน แล้วหนีขึ้นแฟลตดินแดง รอจนตำรวจถอนหลังถึงพากันขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พัก ส่วนระเบิดแสวงเครื่องของกลางผลิตขึ้นมากันเองเพื่อใช้ตอบโต้กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง