ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิลาลัย รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผู้กำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.ปกรณ์เกียรติ พงษ์ธนนิกร สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม แถลงผลจับกุมนายสหชัย เจียรเสริมสิน อายุ 53 ปี หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนภาคใต้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ จ.60/2564 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน”
สืบเนื่องจากปี 2555 ชุดเฉพาะกิจศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง จับกุมเรือลักลอบขายน้ำมันเถื่อนบริเวณน่านน้ำจังหวัดสงลา ยึดของกลางน้ำมันเถื่อน 2 พันลิตร และเงินสด 48 ล้านบาท สืบสวนสอบสวนขยายผลพบนายสหชัย เจียรเสริมสิน อยู่เบื้องหลัง ก่อนจับกุมและตรวจค้นที่พักพบเอกสารซื้อขายน้ำมันเถื่อน 400-500 ล้านลิตร ที่มีการจำหน่ายไปกว่า 1 หมื่นครั้ง พนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปที่อัยการสูงสุด คดียังไม่เสร็จสิ้น อัยการอยู่ระหว่างสั่งสอบเพิ่มเติม ต่อมาปี 2558 พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำทำผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจเห็นว่า การค้าน้ำมันเถื่อนเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน มีการออกหมายจับเมื่อปี 2564 จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาย่านห้วยขวาง เบื้องต้นให้การปฏิเสธ ทั้งนี้พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบสวนติดตามเสี่ยโจ้มาโดยตลอด เนื่องจากถือเป็นขาใหญ่ในวงการค้าน้ำมันเถื่อน พบประวัติมีการเดินทางเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้ง