ชีวิตหลังเกษียณ

 

ผ่านไป 10 ปีร่างกายยังกระปรี้กระเปร่าคล่องแคล่วว่องไวนับตั้งแต่วันถอดหัวโขน

พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่ฉลองวัย 70 ท่ามกลางเพื่อนฝูง ญาติมิตร คนสนิท และลูกน้องเก่า

คนคุ้ยเคย คนคุ้นตา กับคนหายหน้า เป็นธรรมดาของสัจธรรม  

เปิดบ้านซอยลือชา พหลโยธินซอย 3 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เข้มงวดมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิดที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ตั้งแต่แสดงผลการฉีดวัคซีน ประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวิภาวดีตั้งโต๊ะตรวจ ATK เพื่อความสบายใจแก่ทุกฝ่าย

ป้องกันข้อครหา “พวกโลกสวย” นักวิพากษ์วิจารณ์อยู่บนแป้นคีย์บอร์ด

ชีวิตของลูกชาย พล.ต.อ.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ยิ่งกว่านวนิยายเล่มหนา

“แต่ผมเขียนหนังสือไม่เป็น สอนใครไม่ได้” เจ้าตัวว่า “ได้แต่ถ่ายทอดเป็นเรื่องเล่าแก่คนรุ่นหลัง”

ตัวอย่างกระสุนนัดแรกพุ่งเข้าขมับ ดับดาวโจร ชื่อก้องของเมืองไทย

 “ตี๋ใหญ่” ตายได้อย่างไร เขารู้ดีมากที่สุด

“ผมเห็นผู้กองตามหลังมาแล้ว” เสียงของเสือทวีปบอกเบื้องหลังฉาก หลังจากนั้นถึงเกิดวีรกรรมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

“ใครจะมาโกหกไม่ได้ เพราะผมอยู่ตรงนั้น” นายพลเจ้าของบ้านว่า

เขากับ พ.ต.ท.กิตติโชค แสงนิล ขณะนั้นเป็นรองผู้กำกับเป็นผู้เบิกลูกปืนนัดต่อไปกระหน่ำซ้ำ

ประวัติศาสตร์ดับดาวโจรไม่เหมือนละครที่ส่ง ฉัตรชัย เปล่งพานิช ดังเป็นพลุแตกพร้อมแว่นตายี่ห้อ “เรย์แบนด์” มาดเข้ม

“เรื่องจริงอยู่ที่ใครจะเอามาพูดเท่านั้นเอง”

อดีตผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพระนครเหนือยังวางแผนส่งตำรวจหญิงสาวสวยในสังกัดปลอมตัวไปตีสนิท มือปืนยิงสาวท้องแก่ ถึงถิ่นอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี “หว่านเสน่ห์” อยู่นานเกือบเดือนจนนักฆ่าใจอำมหิตหลงคารม

ยอมนั่งรถทัวร์มาหาถึงเมืองหลวง

เข้าสู่หลักประหารนอกกำแพงเรือนจำ

“เลิกเหอะความคิดที่จะถีบประตูเข้าไปจับคนร้าย” พล.ต.ท.กฤษฎาเตือนสตินักสืบรุ่นหลาน “มันมีแต่ในหนังเท่านั้น”

เขาเล่าอีกประสบการณ์ติดตามมือปืนที่ไม่ยอมวางเขี้ยวเล็บ แม้แต่เข้าห้องน้ำ กบดานอยู่บนคอนโดมิเนียม หากผลีพลามบุ่มบ่ามเข้าไปมีแต่ความเสี่ยงจะสาดกระสุนแลกเลือดกันอย่างแน่นอน แผนของเขาแค่ขับรถไปเฉี่ยวพาหนะคันโปรดของเป้าหมายในลานจอด ก่อนให้ยามรักษาความปลอดภัยโทรศัพท์ไปตามตัวลงมาเจรจาความ

เพียงแค่นั้นก็ตะครุบตัวอย่างละม่อม เลี่ยงต่อความสูญเสียได้สำเร็จ

สมัยเป็นรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยอมเข้าไปเจรจาแลกตัวประกันเป็นตำรวจโรงพักพญาไทจากวิกฤติลูกชายนายพลทหารคลั่งระห่ำจนคนร้ายมอบตัว

“ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพูดอะไรไปบ้าง” เขาระบายความจริงในวินาทีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในชีวิต

“ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เจ้าตัวยึดคำสอนของพ่ออย่างเดียว

เส้นทางรับราชการเหมือนรุ่งกับร่วงโดน “จับดอง” เผชิญมรสุมร้ายมากมายจากอำนาจคนในรั้วและนอกรั้ว

แต่ไม่เลวร้ายเท่าลูกชายคนสุดท้ายตายคาอ้อมกอดในวันแรกเกิด

“มันทำให้ผมรู้ถึงคำว่าเวรกรรม”

ปัจจุบัน พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ปล่อยวางเรื่องราวเก่าเก็บไว้ในลิ้นชักความทรงจำ ใช้ชีวิตเรียบง่ายเลี้ยงหลาน เอาใจใส่กับสัตว์แสนรัก ดูแลกิจการรีสอร์ต December to Remember ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา

ล้อมวงเล่นดนตรีที่ “บ้านพันธุ์คงชื่น” ทุกเย็นวันอาทิตย์

ใช้ชีวิตหลังเกษียณเปี่ยมไปด้วยความสุขสนุกสนานไปตามสภาพ

ขณะที่ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในวัย 72   ปี เป็นแขกขาประจำเกือบทุกงานครบรอบวันคล้ายวันเกิดของตำนานนายพลนักสืบ

ทั้งคู่เป็นเครือญาติสนิทชิดเชื้อกัน

“ผมมาบ้านนี้ตั้งแต่ท่านอธิบดี” เขารำพันความหลังถึงภาพ พล.ต.อ.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น นั่งหารือหน้างานกับ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ พล.ต.อ.สนั่น ตู้จินดา นายตำรวจรุ่นบรมครูมือสอบสวน

“สมัยก่อนทำงานกันสนุก” นายพลตำรวจเอกคิดถึงอดีต

ภูมิใจกับเกมพลิกตำรากฎหมายเอาผิดฆาตกรในคดีฆาตกรรม พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ สู่คำพิพากษาประหารชีวิต

ร่วมคลายข้อกังขาการตายของ ห้างทอง ธรรมวัฒนะ ทายาทตระกูลมรดกเลือด

มีอีกเรื่องราวมากมายในแฟ้มสอบสวนของเขา

ครั้งหนึ่งยังเคยเป็นแคนดิเดต พิทักษ์ 1 ขับเคี่ยว พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ในห้วงเวลา “ไร้เงา” เจ้าสำนักตัวจริง

“ทุกอย่างมันเป็นอดีตไปแล้ว” มือสอบสวนระดับตำนานวงการสีกากีหัวเราะ ปล่อยวางถอดทิ้งหัวโขนใช้ชีวิตแบบสุขสบายตามประสาข้าราชการบำนาญ

“ดนตรีมันบำบัดความทุกข์ได้นะ”  อดีตรองแม่ปทุมวันสะกิด “คุณเคยเห็นไหม พลตำรวจเอกร้องเพลง มีพลตำรวจโทเล่นดนตรี”

ภาพเจ้าบ้านเป่าแซ็กโซโฟนคลอเสียงดนตรีบรรเลง

“โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต…” บทเพลง “จงรัก” กระตุ้นบรรยากาศเก่ากับเรื่องเล่าเคล้าตำนานของคู่นายพลคนดังวัยเกษียณ

บทพิสูจน์อำนาจกับบารมีในวันที่ไม่มีหัวโขน

RELATED ARTICLES