ผบ.ตร. นำทีมแถลงผลช่วยเหลือเหยื่อติดนรกในต่างแดน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงแรงงาน  นายรัฐพล มณีเหล็ก ผู้อำนวยการกลุ่มคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ นายตรีเทพ นพคุณ รองผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล หัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการพิเศษสืบสวน ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย พนักงานฝ่ายปกครอง กรมการปกครอง ร่วมกันแถลงผลการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ในต่างแดน

ทั้งนี้มีเหยื่อร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียถูกหลอกลวงและตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในต่างประเทศ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการประสานงานหน่วยงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กองต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กรมการกงสุล กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งความร่วมมือจากภาคเอกชน ติดตามข้อมูลของคนไทยทีร้องขอความช่วยเหลือ จนสามารถช่วยเหลือคนไทยถูกหลอกลวงกลับมาได้อย่างปลอดภัยจำนวน 364 คน แบ่งเป็นการช่วยเหลือจากประเทศกัมพูชา  361 คน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 คน นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเป็นจำนวนมาก  มีการออกหมายจับผู้กระทำผิดที่หลอกลวงคนไทยไปบังคับใช้แรงงานในกัมพูชา  32 ราย จับกุมแล้ว 15 ราย  ออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงคนไทยไปค้าประเวณีที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ทั้งสิ้น 25 ราย จับกุมแล้ว 6 ราย

สำหรับกรณีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงไปประเทศกัมพูชาจากข้อมูลการรับสมัครงานทางโซเชียลมีเดียเหมือนปกติทั่วไป ตั้งแต่ งานรับจ้างทั่วไป จนถึงงานในกาสิโน  มีการใช้ตัวเลขรายได้ที่สูงมาล่อใจ เพื่อให้ผู้เสียหายมีความสนใจสมัครไปทำงานดังกล่าว แต่แท้จริงแล้วได้มีการนำพาผู้เสียหายข้ามชายแดนผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ และมีการยึดหนังสือเดินทาง และบังคับให้ทำงานที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหลอกลวงให้คนไทยลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง หรือคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเสียหายมูลค่าหลายล้านบาท หากใครไม่ยอมทำงานดังกล่าวก็จะถูกบังคับทุบตี ทำร้ายร่างกาย กักขัง และอดอาหาร จะต้องหาทางร้องขอความช่วยเหลือจากทางการไทยเพื่อช่วยเหลือกลับประเทศไทย

ส่วนในกรณีผู้เสียหายจากประเทศสหรัฐเอมิเรตส์  ถูกหลอกลวงในลักษณะใกล้เคียงกันคือ เป็นการรับสมัครงานในลักษณะนวดไทยในเมืองดูไบ และมีการใช้ตัวเลขค่าตอบแทนที่สูง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อให้เหยื่อมีความสนใจและยินยอมที่จะเดินทางไปทำงานยังปลายทางในต่างประเทศ  เมื่อไปถึงกลับพบว่า งานไม่ตรงกับที่ได้รับแจ้งในโอกาสแรก  ถูกบังคับให้ค้าประเวณีในสถานที่ที่ถูกตั้งเป็นร้านนวดบังหน้า บางครั้งอาจจะถูกขายต่อไปยังเมืองห่างไกล  ต้องถูกบังคับค้าประเวณีโดยไม่ได้รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด การติดต่อหาความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ก็เป็นเรื่องยาก ทำให้ต้องหาความช่วยเหลือผ่านทางญาติที่เมืองไทย จนสามารถประสานงานหน่วยงานไทยเพื่อให้ความช่วยเหลือกลับประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย

 

 

RELATED ARTICLES