ด้วยความน้อยใจ

 

โลกออนไลน์กลายเป็นช่องทางให้ได้ระบายมากกว่ามานั่งเขียนจดหมายส่งถึง “ผู้เป็นนาย” แล้วหายไปไม่มีเสียงสะท้อนกลับมา

ถึงมือบ้าง ไม่ถึงมือบ้าง

ฝึกใครคนกล้าแสดงความเห็น ฝึกให้หลายคนเห็นความรู้สึกที่อยู่ใน “ก้นบึ้ง” อันแสนสุดจะอึดอัด

แต่สุดท้ายไม่ต่าง “บัตรสนเท่ห์” เขียนเอาเท่กลับไม่กล้าแสดงตัว

สุดท้ายแล้วแต่ “ผู้เป็นนาย” จะคิดไตร่ตรองมองคุณค่ากับสิ่งที่บางคนระบายความอัดอั้นมากน้อยเพียงใด

ล่าสุดว่อนอารมณ์ความขื่นขมในนาม “ตำรวจชั้นผู้น้อย” กระจายทั่วสังคมโซเชียลยาวเหยียด

ระบุ ข้าราชการตำรวจในสายตาประชาชน ถูกด้อยค่าติดลบเพราะอะไร

ใครคิดบ้าง

เจ้าตัวแสดงความเห็นว่า ถูกคนเป็นนายเหยียดเยี่ยงทาสจากคำสั่งต่าง ๆนานาที่แย่งกันออกมาสั่ง ลูกน้องที่มีกำลังเพียงน้อยนิด  นายพลมีเป็นร้อยก็แย่งกันสั่งตามแนวทางที่ต่างคนต่างคิดจะซ้ำกันไม่ได้  ถ้าไปซ้ำนายพลท่านอื่นก็เกรงว่าจะไปลอกคำสั่งเขามา ไม่ได้หน้า

บรรดาสตาฟฟ์นายพลทั้งหลาย วันๆ ไม่เคยออกมาทำงานสัมผัสประชาชน ไม่เคยมาขี่มอเตอร์ไซค์สายตรวจ ตากแดด ตากลม ตากฝน ไม่เคยมาตั้งด่วนตรวจจับรถที่ทำผิดจราจร ไม่เคยมาสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุต่อพี่น้องประชาชน

ได้แต่ “นั่งเทียน” คิดเสนอนายเอาหน้า เพื่อร่างหนังสือสั่งการแบบ Top down

“ไม่เคยตรวจสอบเลยว่า ไอ้ทาสชั้นประทวน ตามโรงพัก ตามหน่วยต่าง ๆ ในสังกัด ตรนั้น มันมีกำลังพลอยู่เท่าไร  นายพลต่างคนต่างคิด ด้วยเสนาธิการไร้ซึ่งความคิดอย่างรอบด้าน แล้วนำเสนอให้นายเซ็นสั่งการลงมาทอดๆ  คิดเอาเองแบบนี้ สั่งแบบนี้”

ถ้าเป็นการทำสงคราม มีแต่พ่ายแพ้

“ท่านนายพลทั้งหลายท่านรู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันตำรวจทั้งหลาย ค่อย ๆอำลาจากอาชีพนี้แบบน้ำซึมบ่อทราย ใครไม่มีทางออกก็เออรี่ออกไป เพื่อให้หลุดพ้น แรงกดดันมากจากภารกิจที่มายมาย นายไปเอาหน้าที่หน่วยงานอื่นมาสั่งลูกน้อง”

จนงานในหน้าที่ที่แท้จริง อันเป็น “แก่นแท้ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ถูกบังตาว่า ตำรวจทำหน้าที่ของตัวเองไม่เต็มร้อย 

ที่สำคัญไปกว่านั้น  “ทุกภารกิจมีค่าใช้จ่าย”   เคยมีแม้สักครั้งไหมที่ออกคำสั่งให้ปฏิบัติภารกิจแล้วให้งบประมาณเข้ามาด้วย

“อยากถามคนสั่งครับว่า หัวใจท่านทำด้วยอะไร  ท่านเกิดเป็นนาย  พวกผมเป็นทาสที่ต้องทำตามนายอย่างนั้นหรือ รู้ไหมต้นทุนในการสืบจับคนร้ายแต่ละเคสเท่าไร ท่านไม่รู้หรอก เพราะท่านได้แต่สั่งต้องจับให้ได้ภายใน 3 วัน 7 วัน พวกผมทำไรไม่ได้ครับ ได้แต่น้อยใจ”

ทำงานเหน็ดเหนื่อยจนล้ามานาน ด้วยอาชีพรับเงินเดือนประจำจะไปหาบ้าน หรือที่ซุกหัวนอนในกรุงเทพมหานคร หรือเมืองใหญ่ก็ไม่มีปัญญา

บั้นปลายชีวิตจะขอย้ายไปเกษียณที่ต่างจังหวัดบ้านเกิด เพราะอย่างน้อยยังมีบ้านพ่อ บ้านแม่ และที่นาพอได้ทำกินกลัวเกษียณ

“เฮ้อ……เรื่องแค่นี้คนเป็นนายก็ให้ไม่ได้ ให้ไปหาตั๋วมา ไอ้ชั้นประทวนอย่างเรา จะมีปัญญาหาตั๋วเทวดาที่ไหนครับ”  

พี่น้องตำรวจทั้งหลาย ทางออกที่ดีที่สุดที่นายจะเข้าใจ

“ผมว่าพวกเราลาออกพร้อม ๆกัน ให้นายเขาทำงานกันเองน่าจะดีครับ”

ด้วยความน้อยใจ

 

RELATED ARTICLES