เส้นทางมาเฟียข้ามโลก

จิมมี่ ซิงห์ สันธู ไม่ใช่ “ซานดู” ตระกูลเดียวกับ ฮาร์นาซ สันธู นางงามจักรวาลชาวอินเดียปี 2021

เจ้าตัวเป็นสมาชิกระดับหัวแถวมาเฟียใหญ่ในแคนาดา อยู่ในแก๊ง  UN หรือ United Nation มีประวัติโชกโชนด้านค้ายาเสพติด และรับจ้างฆ่า

จากการตรวจสอบพบว่า มาเฟียอินเดียรายนี้เดินทางจากประเทศมาเลเซีย มายังภูเก็ต ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ก่อนโดนมือปืนสองคนลั่นไกยิงตอน 4 ทุ่มเศษ คืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะกำลังจะเข้าที่พักหาดราไวย์ กลางเมืองภูเก็ต

เรื่องคดีก็ว่ากันไป หาอ่านที่สื่อไหนก็ได้

สำหรับนิตยสาร COP’S ได้รับรายงานจากผู้สื่อข่าวพิเศษประจำแคนาดาได้ความว่า จิมมี่เป็นคนอินเดียย้ายมาอยู่กับญาติในแคนาดาตอนอายุ 7 ขวบ มีพฤติกรรมเกเรมาตั้งแต่เด็ก และไปเข้าแก๊งกับวัยรุ่นที่มาจากประเทศในแถบเอเชียเหมือนกัน เพื่อไม่ให้ถูกบูลลี่ถูกรังแกจากพวกตาน้ำข้าวเจ้าถิ่น

เมื่อเติบใหญ่ขึ้น จิมมี่กับพวกเข้าร่วมกับแก๊งอันธพาล สถาปนาก๊วนชื่อว่า UN หรือ สหประชาชาติ ขึ้นชั้นเป็นมาเฟีย  เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด  เมื่อมีเงินมากขึ้นได้ขยายอาณาเขตรวบรวมสมาชิกเข้ามาอยู่จนรับงานจ้างฆ่า เป็นงานที่สร้างชื่อเสียงและเงินทองให้กับแก๊ง UN อย่างมหาศาล  

ประเทศแคนาดามีขนาดใหญ่ แต่ประชากรน้อยนิด ทางการเปิดรับต่างชาติเข้ามาอยู่เพื่อความเจริญ ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีอาชญากรแอบแฝงเข้ามา

จนเกิดกลุ่มแก๊งมากมาย และมีการแย่งชิงผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมายทุกชนิด

ตัวจิมมี่เองแก่กล้าขึ้นตามอายุกลายเป็นแถวหน้าในวงการมาเฟีย ขึ้นชั้น “ดาวเด่น”  แต่เริ่มถูกเพ่งเล็งจากทางการ  หลังจากไปก่อเหตุสังหารแก๊งคู่แข่งจนเกิดการล้างแค้นกันไปมา 

จิมมี่ถูกดำเนินคดีและเนรเทศกลับอินเดีย

กลับไปถึงบ้านเกิด แทนที่จะเก็บตัวเงียบๆ ได้ใช้เงินทองที่หามาได้ลงทุนทำธุรกิจผิดกฎหมาย ความที่คราบมาเฟียยังฝังในตัวได้ไปก่อคดีในอินเดีย โดนตัดสินจำคุก หมดอิสรภาพเพียงปีกว่าออกมา และตั้งใจจะเดินทางกลับแคนาดา ใช้พาสปอร์ตปลอมที่เชื่อว่าผลิตจากแหล่งปลอมพาสปอร์ตดีที่สุดในโลก

ทว่าตรวจคนเข้าเมืองแคนาดาเข้มงวด ทำให้จิมมี่กลับเข้าถิ่นอิทธิพลเก่าไม่ได้ หันเหมาวนเวียนอยู่ในประเทศแถบอาเซียน อาทิ ไทย มาเลเซีย และกัมพูชา เข้าออกเป็นว่าหลายครั้ง

มีอยู่ครั้งหนี่ง จิมมี่นั่งรถตู้ผ่านช่องทางธรรมชาติจากกัมพูชาเข้าไทย ใช้เงินไม่น้อยกว่าห้าหลักเป็น “ใบเบิกทาง” หรือกระทั่งช่วงหลังๆ ที่มาเลเซียจับได้ว่า เขาใช้พาสปอร์ตปลอมในการเดินทางเข้าออก กระทั่งถูก  “แบล็กลิสต์” ห้ามเข้าประเทศเด็ดขาด

จิมมี่เลือกเช่าไพรเวทเจ็ตบินตรงเข้ามาอยู่ที่เกาะภูเก็ต หวังลงทุนทำ “ธุรกิจสีเทา” แผ่อิทธิพลการเตรียมเม็ดเงินมหาศาลทำสถานที่ออกกำลังกายและค่ายมวยบังหน้า 

แต่ต้องมาจบชีวิตเสียก่อน

ส่วนทีมสังหาร ตามแนวทางการสืบสวนพบว่า เข้ามาเมืองไทยระยะหนึ่งแล้ว  หลายคนคงสงสัยว่าในเมื่อมีเป้าหมายชัดเจน มาถึงแล้วทำไมไม่ยิง ๆ แล้วเผ่น

คำตอบ คือ หลังจากการมาซุกตัวของจิมมี่รั่วไปถึง “แก๊งคู่แค้น” มี “คำสั่งตาย” ส่งมือสังหารระดับแถวหน้าเป็นอดีตทหารมือพระกาฬจากแคนาดาเข้ามา หลายครั้งที่จวนเจียนจะถึงตัวเป้าหมาย แต่จิมมี่ไม่ใช่คนอยู่กับที่  มีการเดินทางตลอด รวมทั้งเปลี่ยนที่พัก เปลี่ยนพาหนะและเส้นทาง

กระนั้นก็ตาม สิ่งที่หลายคนสงสัยว่า ในเมื่อเป็นปฏิบัติการ “โจรฆ่าโจร” ทำไมตำรวจไทยต้องทุ่มเทสรรพกำลังขนาดนี้

อย่างแรกเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นข่าวดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติถูกสังหารกลางเมือง สำคัญสุดคือ ทางการแคนาดาเองไม่สบายใจที่หลังจาก “จิมมี่ถูกสังหาร”  คนในแก๊ง UN บุกไปล้างแค้นแก๊งคู่แค้น และเชื่อว่าจะต้องลุกลามบานปลาย ถล่มฆ่ากันอีกนับสิบศพคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่คงต้องถูกลูกหลงและเดือดร้อนไม่มากก็น้อย

พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฉลอง จังหวัดภูเก็ต รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับ นายจีนคาร์ล ลาห์แคมป์ อายุ 36 ปี และ นายแมทธิว เลอองเดร โอวีเด ดูเพร อายุ 36 ปี อดีตทหารนักฆ่าชาวแคนาดาทั้งคู่ไว้เรียบร้อยแล้ว

น่าเสียดายที่มันรีบเผ่นหนีออกประเทศจนเป็นหน้าที่ของตำรวจสากลประสานข้อมูลออกตามล่า

นักฆ่าอิมพอร์ตมือพระกาฬ

ภาพ:Vancouversun

RELATED ARTICLES