พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกโรงเตือนภัยอาชญากรรมออนไลน์ด้วยตัวเอง หลังจากพบหลายวันก่อนได้รับรายงานจากฝ่ายรับแจ้งความออนไลน์มีผู้เสียหายถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายกรณีมีชื่อส่งของผิดกฎหมายให้ผู้เสียหายกดลิงก์แอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมเครื่องระยะไกล เพื่อแจ้งความออนไลน์ ผู้เสียหายพลาดโหลดและบอกรหัส 9 ตัวให้คนร้าย เชื่อเป็นรหัสควบคุมเครื่อง จากนั้นคนร้ายให้คว่ำหน้าจอโทรศัพท์ไว้เป็นเวลา 15 นาที เมื่อเปิดขึ้นมาปรากฏว่า เงินหายไปจากบัญชีธนาคารรวม 4 บัญชี เป็นเงินทั้งสิ้น 2 ล้านกว่าบาท
” ก่อนอื่นขอบอกว่า แอปพลิเคชันที่คนร้ายนำมาใช้ เป็นแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์ ช่วยให้เข้าไปควบคุมคอมพิวเตอร์อีกเครื่องได้ เสมือนเราไปนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น แต่ถ้ามิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิด มันก็อาจก่อความเสียหายกับอย่างมหันต์ สมมติว่า ถ้ามิจฉาชีพโทรมาด้วยมุกอะไรก็ตาม แล้วส่งลิงก์แอปพลิเคชันประเภทนี้ที่มีอยู่มากมายใน Play Store หรือ App Store แล้วเราติดตั้งลงไปจะสามารถควบคุมโทรศัพท์มือถือระยะไกลได้”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์บอกอีกว่า ปกติมีขั้นตอนเล็กน้อย คนร้ายอาจจะบอกให้กรอก ตัวเลข หรือตัวอักษรสักชุด หรือไม่ คนร้ายก็หลอกถามเอาตัวเลขชุดนั้นจากเรา ทันใดนั้น คนร้ายจะควบคุมเครื่องของเราได้ทันที บังคับคลิกได้ทุกปุ่ม ทุกแอปพลิเคชัน ขณะเดียวกัน ยังมีแอฟพลิเคชันประเภทแชร์หน้าจอ วิธีการใช้เหมือนควบคุมโทรศัพท์มือถือ แต่ คนร้ายกจะดูหน้าจอเราได้ หลอกให้ผู้เสียหายเปิดแอปพลิเคชัน คนร้ายก็จะเห็นข้อมูลทั้งหมด เมื่อได้ข้อมูลแล้วอาจมีแผนสองหลอกต่ออีกครั้งในขั้นตอนต่อไป
“การที่คนอื่นควบคุมโทรศัพท์เราได้ ก็ไม่ต่างอะไรกั ที่เรายื่นโทรศัพท์ให้เขา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เงินในบัญชีเราจะหายได้ทันทีทันใด เพราะคนร้ายก็ยังไม่รู้รหัสการทำธุรกรรมกับ e-banking ของเราอยู่ดี ถ้ามีสติ ไม่บอกรหัส ก็ยากที่คนร้ายจะโอนเงิน ผ่านช่องทางดังกล่าว อยากฝากย้ำเตือนประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีนโยบายให้ตำรวจหน่วยงานต่างๆ ติดต่อผู้เสียหายทางไลน์ หรือให้โหลดแอปพลิเคชัน หรือให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ เพราะฉะนั้นอย่าหลงเชื่อบอกข้อมูลส่วนตัวให้ใครง่าย ๆ โดยเฉพาะรหัส OTP หรือรหัสควบคุมเครื่อง” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทิ้งท้าย