คดีฆาตกรรมโหดที่เกิดขึ้นในจังหวัดระนอง ทำเอาทีมสืบสวนนั่งไม่ติด
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 นายธวัช ใจดี ผู้ช่วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง เข้าแจ้งความระบุว่า นายทนุ ใจดี อายุ 81 ปี บิดา อยู่ที่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 5 ตำบลปากจั่น อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ได้หายตัวไปจากบ้าน
การระดมตามหาข้ามคืนพบหยดเลือดบริเวณพื้นดินใต้บันได และฝาผนังปูน แต่เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนประกอบกับฝนตกหนักเจ้าหน้าที่ต้องยุติการค้นหา
เช้าวันรุ่งขึ้นมีการปูพรมค้นหาอีกรอบกระทั่งพบร่างของ นายทนุ ใจดี เป็นศพหมกอยู่ในบ่อน้ำในสวนยางพารา มีบาดแผลบริเวณศีรษะด้านหลัง 1 แผล บริเวณกกหูด้านซ้าย 1 แผล บริเวณหน้าผาก 2 แผล
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สั่งการให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 นำกำลัง พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ปฏิบัติราชการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ประสาน พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และทีมงานของกองปราบปรามตามคำสั่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม
พบเบาะแสคนร้ายติดต่อ เรียกค่าไถ่ญาติของเหยื่อเป็นจำนวน 8 ล้านบาท เหมือนเป็นการอำพรางคดีเบี่ยงเบนให้ตำรวจชุดสืบสวนไขว้เขว
เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ในบริเวณละแวกบ้านเกิดเหตุที่เต็มไปด้วยชาวเมียนมาพักอาศัยอยู่
พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 นำกำลัง พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ปฏิบัติราชการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.อ.จิตปะพัทธ์ เอกโพธิ์ ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ตั้งโต๊ะเรียก พ.ต.อ.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พ.ต.อ.ธีระวัฒน์ เวชวงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากจั่น จังหวัดระนอง ท้องที่เกิดเหตุ เข้าประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตรวจคนเข้าเมือง 6 พ.ต.อ.สมชาย จิตสงบ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง เพื่อวางแผนคลี่คลายปมคดี
หลังจากนั้นมอบหมาย พ.ต.ท.จงเสริม ปรีชา รองผู้กับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.ท.ชัช แสงฉาย รองผู้กับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รองผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.สมพงศ์ คงอุป รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรปากจั่น พ.ต.ท.ฐิติณัฎฐ์ ศรีสังข์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.ท.สานิตย์ ผอมสวัสดิ์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ดำมี สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พ.ต.ต.ธนภพ รัตนบุรี สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พ.ต.ท.ยงยุทธ ดวงขวัญ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรปากจั่น กับพวกนำผู้ต้องสงสัยชาวเมียนมาไปเค้นปากคำหาพิรุธควบคู่กับการตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์รวมถึงแรงจูงใจในการฆาตกรรม
นำไปสู่การขออนุมัติศาลจังหวัดระนอง ออกหมายจับ นาย ซอ มิว อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา และนายคิน ม่าว ซอ อายุ 36 ปี สัญชาติ เมียนมา ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบัง การเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย และกระทำแก่ศพโดยประการใดเพื่ออำพรางคดี”
ทั้งคู่รับสารภาพร่วมกันก่อเหตุเพราะความแค้นส่วนตัว ใช้ท่อนไม้ทุบหัวผู้ตายแล้วช่วยกันยกขาคนละข้างลากศพไปบ่อน้ำใกล้บ้านเกิดเหตุ ก่อนใช้ผ้าขาวม้าผูกที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้างแล้วโยนศพทิ้งหมกบ่ออำพรางคดี
หลังจากนั้นโทรศัพท์ไปเรียกค่าไถ่ญาติของเหยื่อ กลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สุดท้ายจนมุมทีมสืบสวนคลี่ปมสังหารที่ใช้เวลาเพียง 7 วัน