อ้างเพื่อนโจ๊กหลอกตีกิน 6 ล้านบาท

เจอลองของเข้าอย่างจัง

ชื่อของ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดความขลังให้เพื่อนร่วมรุ่นนำไปหากินได้จริงหรือ

งานนี้ทำเอา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายพลคนดังแทบ “ควันออกหู” เมื่อรู้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง

ความแตกทันทีที่ น.ส.ธิรวรรณ์ เขียวงาม ผู้เสียหาย เป็นเพื่อนสนิทของชายชาวอังกฤษที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในสถานกักกันคนต่างด้าว กองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตรวจคนเข้าเมือง 3 เข้าร้องเรียนพฤติกรรมบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีความสนิทสนมใกล้ชิด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสามารถช่วยเหลือทางคดีและสามารถประกันตัวได้

ผู้เสียหายหลงเชื่อสนิทใจมอบเงินกว่า 6,000,000 บาท ให้กลุ่มผู้ต้องหา แต่ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบัน ชายชาวอังกฤษไม่ได้รับการประกันตัวหรือได้รับการปล่อยตัวแต่อย่างใด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล มอบหมาย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปากคลองสาน นำชุดสืบสวนตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนทันที เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีการแอบอ้างผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อให้มีการดำเนินคดีผิดไปจากระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมาย

กระทั่งทราบข้อมูล กล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวชายชาวอังกฤษตาม “หมายแดง” หรือหมายจับของตำรวจสากล ถูกส่งตัวไปกักขังเพื่อรอดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศอังกฤษไว้ที่สถานกักกันคนต่างด้าวกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตรวจคนเข้าเมือง 3

ระหว่างนั้น น.ส.ธิรวรรณ์ เขียวงาม เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอประกันตัวผู้ต้องกัก แต่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว

เธอหันไปขอความช่วยเหลือ นายธนัญวัธน์ ธนันธัญภัทรน์ ประสาน นายวิทยา สมศรีษมสกุล สมอ้างว่าสามารถช่วยประสานดำเนินการในประกันตัวผู้ต้องกักได้ เนื่องจากรู้จักกับ พ.ต.อ.ราเมศ แก้วสูงเนิน ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน สมรอยเป็นชุดทำงานและ เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจ 47  รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทำให้ฝ่ายหญิงมั่นใจได้ว่าจะสามารถทำเรื่องประกันตัว หรือทำให้ได้รับการปล่อยตัวเพื่อนชาวอังกฤษอย่างแน่นอน

แต่มีข้อแม้ต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการจำนวน 6 ล้านบาทเสียก่อน 

ปรากฏว่า เมื่อโอนเงินแล้วยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ส่วนฝ่ายที่อ้างสนิทสนมนายพลตำรวจโทชื่อดังบ่ายเบี่ยงมาตลอดจนไม่สามารถติดต่อได้

 น.ส.ธิรวรรณ์ เขียวงาม ถึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงเอาเงินไป มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปากคลองสาน

ฃการสืบสวน พบว่า นายวิทยา สมศรีษมสกุล ได้มีการติดต่อ พ.ต.อ.ราเมศ แก้วสูงเนิน ในห้วงเวลาเกิดเหตุจริง และมีพยานบุคคลยืนยันว่าบุคคลทั้งสองได้มีการกล่าวอ้างถึง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักหาล ในการติดต่อขอประกันตัว หรือขอเข้าพบผู้ต้องกักเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่กำหนดไว้ รวมความเสียหาย 6,000,000 บาท

เส้นทางการเงินยังพบว่า ได้มีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคารของ พ.ต.อ.ราเมศ แก้วสูงเนิน และบัญชีอื่นๆ ของบุคคลในครอบครัวของ พ.ต.อ.ราเมศ รวมทั้งบัญชีธนาคารของ นายวิทยา สมศรีษมสกุล ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ

พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปากคลองสาน รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ทั้งเป็นผู้หลอกลวง และเป็นเจ้าของบัญชีที่รับโอนในเบื้องต้น จำนวน 5 ราย

ประกอบด้วย พ.ต.อ.ราเมศ  แก้วสูงเนิน ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวิทยา สมศรีษมสกุล อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ซอยเปรมฤทัย9 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี   นายอภิรักษ์ เที่ยงธรรม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/16 ถนนพญาเสือ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก น.ส.ณัฐนรี บุญมา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/4 หมู่ 5 ตำบลพลายชุมพล อำเภอเมืองพิษณุโลก น.ส.ทิพย์สุดา อินสองใจ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221/13 ถนนไชยานุภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”  

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นัดนักข่าวไปแจงข้อเท็จจริงที่โรงพักปากคลองสาน ยืนยันไม่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังกับเรื่องที่เกิดขึ้น ระบุพฤติกรรมของขบวนการผู้กระทำความผิดต้องการแอบอ้างเอาชื่อตัวเองไปสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงผู้เสียหาย

เจ้าตัวสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย มีความละเอียดรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน

ประกาศดำเนินคดีผู้กระทำความผิดทุกรายจนถึงที่สุด

           

RELATED ARTICLES