ครูอุ้ม-พล.ต.ต.ภาสกร สถิตยุทธการ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจชั้นครู รู้สึกอึดอัดเมื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ
มีข้อความฝากถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วยปัดเป่า “เส้นด้าย” ระหว่างหน่วยงานรัฐที่กำลังเป็นปัญหา “ขึงพืด” อยู่ในปัจจุบัน
ด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการอาวุธปืนเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจ ในราคาถูกกว่าสวัสดิการอื่น มีข้าราชการตำรวจสนใจเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ตามชนิดของปืนและความต้องการที่เสนอ
ปัญหาที่ข้าราชการตำรวจไปประสบอยู่ในขณะนี้ คือ การดำเนินงานเรื่องของอนุญาตมีอาวุธปืน คือ ใบ ป.3
เสนอไป “ไม่ผ่านให้” ทั้งที่มีใบเข้าร่วมโครงการเรียบร้อย เอกสาร หลักฐานการจ่ายเงิน ใบรับรองจากผู้บังคับบัญชาลงนามรับรองความประพฤติให้เรียบร้อย
เสนอไปแล้ว ใช้เวลานานในการรอใบ ป.3 นาน 2-3 เดือน ไม่ทราบสาเหตุ เพราะไปถามแล้ว เจ้าหน้าที่บอกเพียงว่า “ท่านนายอำเภอยังไม่ลงนาม” และยังไม่ได้ บางครั้งบอกไม่มีเอกสาร หรือหาเอกสารไม่พบ แต่ใบรับหนังสือมีเรียบร้อย
ผิดกับเอกชนที่ขออนุญาตเช่นเดียวกัน ไม่ได้ซื้อในส่วนของสวัสดิการ “ออกเร็วมาก” ได้ปืนก่อนเจ้าหน้าที่ที่จะขอมีอาวุธปืนไว้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
ปืนสวัสดิการของตำรวจ ส่วนใหญ่จะโอนค่าอาวุธปืนก่อนเพื่อเป็นการจองอาวุธปืน กลับต้องรอเป็นเวลานาน
ใบอนุญาตก็ไม่ออก อาวุธปืนก็ไม่ได้
มีตำรวจเป็นจำนวนมากมีความสงสัยว่า มีความขัดแย้งกัน “ระหว่างฝ่ายปกครองกับตำรวจ” หรือไม่ ถึงมีการเล่นแง่ เอาชั้นเอาเชิงกัน ข่มกัน ดึงเรื่องและไม่ออกใบอนุญาตให้ หรือออกให้ช้า อ้างว่าพระราชบัญญัติให้อำนาจนายทะเบียน “ใช้ดุลยพินิจในการออกให้อย่างเดียว”
ไม่ได้คำนึงถึงการนำมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน
สุดท้าย หมายเลขโทรศัพท์ที่ให้ติดต่อก็ไม่มีผู้รับสาย
“ถ้าเป็นในลักษณะแบบนี้ ผมเชื่อได้ว่า ปัญหาต่าง ๆไม่จบแน่ และจะยืดเยื้อไปเรื่องอื่น เป็นการบ่งบอกถึงความแตกแยกภายในข้าราชการกันเอง ตราบใดที่ผู้มีอำนาจไม่ลงมาดูแล ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย” พล.ต.ต.ภาสกรให้ความเห็น
“ผมเป็นครูสอนและฝึกตำรวจ ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากเพื่อนตำรวจมา ผมมีความไม่สบายใจ ขอบอกแบบตรง ๆว่า นายทะเบียนบางท่านเข้าใจตำรวจดี ออกให้เร็วเมื่อเอกสารครบตามกติกา และไม่มีการเรียกรับใดๆ” ครูอุ้มว่า
“แต่นายทะเบียนบางท่าน ไม่ยอมลงนาม ไม่ทราบสาเหตุ และใช้เวลานานมากๆๆๆ ตำรวจบางนายไปที่อำเภอ ได้รับแจ้งว่า นายอำเภอออกตรวจพื้นที่ ไปทุกวัน เพราะตัวเองต้องการไปรับปืน สรุปคือ นายอำเภอไม่เข้าที่ทำงานทั้งอาทิตย์”
เจ้าตัวเกรงว่า ปัญหาเหล่านี้ ถ้าไม่มีผู้ที่สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาด และตำรวจเองก็รับราชการ ทำหน้าที่เรื่องบังคับใช้กฎหมายเหมือนกัน เช่นเดียวกับฝ่ายปกครอง
“ขอร้องว่าอย่าแบ่งว่าใครเป็นใครเลยครับ เราก็ช่วยกันทำงาน เป็นข้าของแผ่นดินเช่นเดียวกัน ดูแลประชาชนเช่นเดียวกัน”
ขอความกรุณาความเมตตาจาก ท่าน มท.1 ช่วยลงมาดูแลหรือสั่งการ ให้ความสงสารกับข้าราชการตำรวจด้วยเถอะครับ
“กระผมหวังว่าข้อความที่ผมได้เขียนขึ้นมานี้ น่าจะไปถึงท่านบ้าง” นายพลครูฝึกยุทธวิธีฝากความในใจ
“เพราะก่อนหน้า เมื่อปี 2549 ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เมตตา เสมอมาในขณะที่ผมปฏิบัติหน้าที่ทั้งในม็อบและการถวายอารักขา”
กราบรบกวนท่านด้วยความเคารพอย่างสูง