พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง ปฏิบัติราชการ รองผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.พิเชต ชมมฌฑา สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุม นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ อายุ 51 ปี นายอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราดได้ที่บ้านพักนายอำเภอคลองใหญ่ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
การจับกุมสืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน พบมีผู้นำอาวุธปืนที่ผิดกฏหมายมาใช้ก่อเหตุขึ้นหลายครั้ง ตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นรวมทั้งยังพบว่ามีการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และตลาดมืดภายในประเทศพบในกลุ่มธุรกิจสีเทา ผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ทำให้ง่ายต่อการก่ออาชญากรรมที่พบมีการนำมาใช้กราดยิงขึ้นหลายครั้ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้กองยังคับการปราบปรามสืบสวนสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2563 จนพบเครือข่ายค้าอาวุธปืนข้ามชาติของ “เบล 1,000 กระบอก” ที่ส่งออกอาวุธปืนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ตำรวจกองปราบปรามพร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินร่วมเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้าอาวุธ “เบล 1,000 กระบอก” เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 21 จุดทั่วประเทศ พร้อมจับกุมนายดนุพล ยมพงษ์ อายุ 32 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หรือ “เบล 1,000 กระบอก” รวมทั้ง นายดงพล รุจิธรรมธัช อายุ 49 ปี นายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายสาวิตร เจียมจิระ อายุ 60 ปี อดีตนายอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางได้หลายสิบรายการ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
ต่อมา พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม กับพวกสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลการจับกุมจนพบขบวนกานดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอีกด้วยคือ นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ผู้ต้องหารายนีงเป็นนายอำเภอคลองใหญ่ และยังเป็นปลัดอาวุโสอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พบมีพฤติการณ์เป็นผู้จัดทำใบอนุญาต ป.3 ให้กับเครือข่ายของนายเบลตัวการสำคัญของขบวนการ เนื่องจากเป็นข้าราชการปกครองระดับสูงที่คอยอำนวยความสะดวกในการจัดทำใบ ป.3 นำมาใช้ซื้ออาวุธปืนจากร้านขายปืน หรือไม่ก็ซื้อปืนในโครงการสวัสดิการ พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขอออกหมายจับต่อศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบกลาง ก่อนเข้าจับกุม พร้อมตรวจยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ เอกสารหลายรายการ เช่น แบบใบ ป.4 ของบุคคลอื่น สำเนาบัตรประจำตัวของบุคคลอื่นอีกกว่า 30 รายการ เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ
