ดาบตำรวจโรงพักราชกรูด จังหวัดระนอง ติดยาไอซ์ฉกปืนหลวงออกไปจากคลังโรงพักแค่ 7 กระบอก
กลายเป็น “ปลาเน่า” ทำองค์กรตำรวจเสียชื่อจน พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ต้องประกาศกวาดบ้าน
“มึงไม่รักองค์กร กูก็ไม่รักมึง” นายพลหนุ่มคำรามประกาศิตเสียงดัง
ทว่ากลิ่น “ปลาเน่า” ยังไม่ทันจางหาย กลับมี “ปลาเน่าอีกตัว” สร้างวีรกรรมฉาวกว่า
ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่แผนกธุรการ สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รับผิดชอบงานส่งกำลังบำรุงและเบิกจ่ายอาวุธปืน
แอบขโมยปืนหลวงในคลังไปจำนวน 134 กระบอก
ความแตกเมื่อ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด สงสัย ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ขาดราชการไม่มาปฏิบัติหน้าที่ติดต่อกันกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนตรวจสอบปืนในคลังเก็บอาวุธและยุทธภัณฑ์ที่เจ้าตัวรับผิดชอบอยู่
พบมีปืนสั้นหายไป 134 กระบอก
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด มอบหมาย ร.ต.ท.หญิงพิชญาภัค พรหมดวง รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ทำสำนวนนำไปสู่การออกหมายจับดาบตำรวจงานส่งกำลังบำรุงและเบิกจ่ายอาวุธปืน ในข้อหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ
กระทั่งชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวดหนองคายควบคุมตัวไว้ได้ระหว่างเตรียมหนีข้ามโขงไปฝั่งประเทศลาว
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ต้องเข้ารายงาน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ถึงพฤติกรรม “ปลาเน่า” บนโรงพักปากเกร็ด
พบมูลเหตุน่าเชื่อว่ามาจากปัญหาเรื่องเงิน เนื่องจาก ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ติดการพนันงอมแงม แถมเพิ่งกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีไป 2.3 ล้านบาท
อาศัยที่ตัวเองทำหน้าที่งานพัสดุ รับผิดชอบเบิกจ่ายพัสดุรวมถึงอาวุธโรงพัก สบโอกาสการจัดทำเอกสารเท็จระบุการเบิกอาวุธปืนให้กำลังพลในหน่วย
ทำให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบไม่พบว่า อาวุธปืนถูกลักเอาไป
จุดประกายที่น่าต้องจัดระบบตรวจสอบคลังอาวุธทั่วประเทศกันยกใหญ่
