พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลัง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ร่วมกับ พล.ต.ต.ศุภากรณ์ จันทาบุตร ผู้บังคับการปฏิบัติรการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่พักอาศัยและใช้ในการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 จุด
จุดแรก ข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 396/63 ซอยกาญจนาภิเษก 50 แขวงดอกไม้ แขวงประเวศ กรุงเทพมหานนคร พบชายชาวจีน 3 คน หญิงชาวจีน 2 คน และคนไทย 3 คน ยึดทรัพย์สินหลายรายการ อาทิเช่น รถยี่ห้อ เชฟโรเล็ต ทะเบียนป้ายแดง ฬ-2258 กรุงเทพมหานคร รถยี่ห้อ โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 ขด 7517 กรุงเทพมหานคร รถเบนซ์ จีแอลเอส 350 ดี สีเทา ทะเบียนป้ายแดง ล-4669 กรุงเทพมหานคร จักรยานยนจ์ ดูคาติ รุ่น 1299 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จักรยานยนต์ ยี่ห้อ มังกี้ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สุราต่างประเทศ 58 ขวด โทรศัพท์มือถือ 13 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง เงินสด 7 ล้านบาท
จุดสอง ค้นบ้านเลขที่ 89/46 หมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-อ่อนนุช แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ของชายชาวจีนกับคนไทย 2 คน ยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการอาทิ รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียนป้ายแดง 3 คัน นาฬิกาหรูยี่ห้อปาเต๊ะฟิลิปส์ 1 เรือน เงินสด 7.5 ล้านบาท สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม บัตรประจำตัวประชาชน ชื่อนายยะปะสอ สวรรยาคีรี พร้อมหนังสือเดินทาง
จุดสุดท้ายเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 153 คอนโดศุภาลัย โอเรียลทัล สุขุมวิท39 ตึก ดี ชั้น 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร บ้านของชายชาวจีน 2 คน หญิงชาวจีน 2 คน ตรวจยึดทรัพย์สินภายในห้องพัก เช่น เงินสด 28 ล้านบาท กระเป๋าแบรนเนมหรู 8 ใบ บุหรี่ซิการ์ ต่างประเทศ ไพ่ 522 สำรับ
เบื้องหลังปฏิบัติการตรวจค้นสืบเนื่องกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่า ขยายผลกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจค้นสถานบริการจินหลิง ย่านยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พบกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนกว่า 237 คน เป็นชายสัญชาติจีน จำนวน 111 คน เป็นหญิงสัญชาติจีน จำนวน 126 คน นอกจากนั้น พบพนักงานและบุคคลชาวกัมพูชา และชาวไทยในบริเวณอาคารดังกล่าวอีกจำนวนกว่า 29 คน ตรวจยึดรถยนต์หรูกว่า 30 คัน เพื่อตรวจสอบหาเจ้าของว่า มีส่วนร่วม รู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือมีพฤติการณ์อันเข้าข่ายฟอกเงิน หนึ่งในรถยนต์หรูที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้มีชายชาวจีนเป็นเจ้าของรถยนต์ มีประวัติพฤติกรรมกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ ถือหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาในการเดินทางและยังมีหนังสือเดินทางของประเทศต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสวมสิทธิเป็นคนไทยมีบัตรประจำตัวประชาชน เงินที่ได้จากการหลอกลวงจะถูกนำมาฟอกด้วยการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ซื้อบ้านหรู คอนโดหรู รถยนต์หรู และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก มีการจ้างบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันตลอดเวลา ผู้บังคับบัญชาทราบและสั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายค้นดังกล่าว