วีรบุรุษไร้ลมหายใจสุดท้ายใครจะจดจำวีรกรรมกลางสนามรบ
จ.ส.ต.ทศพร เสสาร ผู้บังคับหมู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จังหวัดยะลา หนุ่มชาวจังหวัดน่านวัย 35 ปี
เลือกเป็นตำรวจเพราะอยากรับใช้ประเทศชาติ
ทันทีที่จบโรงเรียนนายสิบตำรวจนครบาลรุ่น 78 ขอลงบรรจุตำแหน่งที่โรงพักบันนังสตา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 ที่กำลังร้อนระอุจากเหตุการณ์ความรุนแรงชายแดนด้ามขวาน ร่วมทำงานเคียงข้าง พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ตำนานนักรบผู้กล้าจากเทือกเขาบูโด
หลังการเสียชีวิตของ “จ่าเพียร” เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 เขาไม่ได้เสียขวัญและยังคงยืดมั่นเดินตามอุดมการณ์รับใช้ชาวบ้านในพื้นที่กลายเป็นที่รักของหมู่เด็ก
เป็น “เทพเจ้า นังตา” ตามฉายาที่ตัวเองตั้งไว้ในชื่อ “เฟซบุ๊ก”
ทุกคนชื่นชอบความเสียสละของเขา และเรียกเขาว่า “อาจารย์เทพ” ที่เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนพี่น้องในสนามรบอยู่ตลอดเวลา ตรงกันข้ามกับฉากชีวิตอีกด้านหนึ่งของเขา ครอบครัวมีอันต้องเลิกรากับภรรยา ไม่มีเวลาเอาใจใส่ลูกชายเพียงคนเดียว
“ถ้าต้องตายในหน้าที่ ก็ถือว่าพลีชีพอย่างเป็นเกียรติในการรับใช้ประเทศชาติ” เขาบอกพ่อแม่เสมอ เช่นเดียวกับภาคภูมิใจของเหล่านักรบสีกากีปลายด้ามขวานหลายคนที่ยอมเสียสละอุทิศตนคุ้มครองความปลอดภัยชาวบ้านในพื้นที่
หวังคืน “สันติสุข” ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เร็วที่สุด
ตลอดระยะเวลา 10 ปีของลูกผู้ชายคนนี้มุ่งมั่งทำหน้าที่ตามภารกิจอย่างสมเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กระทั่ง “ฉากอวสาน” มาถึงเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ระหว่างที่เขาทำหน้าที่ชุดลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่บ้านทรายแก้ว หมู่ 3 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
เป็นวันครบรอบวันเกิดอายุ 9 ขวบของลูกชายคนเดียวเขาพอดี
เสียงระเบิดตูมใหญ่ทำทุกสิ่งที่ทุกอย่างไม่ไหวติง ลมหายใจสงบนิ่ง ปรากฏเรื่องราวความเป็นจริงที่โหดเหี้ยมอำมหิต
ร่างไร้วิญญาณของ เทพเจ้า นังตา ได้เวลามี “ธงชาติคลุม” กลับสู่บ้านเกิดจังหวัดน่าน ขบวนกองเกียรติยศตั้งแถวสดุดี นายสุนทร เสสาร อายุ 55 ปี กับนางบุญมา เสสาร อายุ 54 ปี พ่อและแม่ รวมทั้งนายจตุธรรม เสสาร อายุ 34 ปี น้องชายรอรับน้ำตาซึม
พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ผู้เคยลงไปลุยไฟใต้นานนับ 10 ปี เดินทางไปร่วมรับศพสามารถรู้ความรู้สึกเศร้าสะเทือนใจซ้ำซากแบบนี้เป็นอย่างดี
ในวันที่มี “วีรบุรุษไร้ลมหายใจ” จะได้ผู้ใหญ่สักกี่คนสละเวลามาอาลัยครั้งสุดท้าย
คล้ายใบไม้ปลิวร่วงจากต้นปลิวหายลอยไปตามกระแสลม
ตอกย้ำความขื่นขมบนโลกที่ไม่เท่ากัน !!!