เปิดแผลอำนาจตุลาการสะท้อนกระบวนการยุติธรรมเมืองไทยเกี่ยวกับอิทธิพล สมาชิกวุฒิสภาท่านหนึ่ง พัวพันเครือข่ายนรกชาวเมียนมา
พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลพญาไท ชุดจับกุม ทุน มิน ลัต พ่อค้ายาเสพติด ทำหนังสือชี้แจงหลุด “ว่อนเน็ต” เกี่ยวกับเบื้องหลังยาวเหยียดถึง “ไทม์ไลน์” การขอหมายจับ “นักการเมืองผู้ทรงเกียรติ” เพียงไม่ทันข้ามวัน
โยงใยพยานหลักฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงิน
สุดท้ายลงเอยด้วยการเพิกถอนหมายจับ
ทำเอาวงการตุลาการสั่นสะเทือน
แต่ไม่เลวร้ายเท่ากับราดน้ำมันจุดไฟ “เผาบ้านหลังเก่า” เอามาเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายที่ตัวเองและผู้บังคับบัญชาในสังกัดกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล “เจอพิษ”กระเด็นออกนอกหน่วยกันระนาว
ระบายความรู้สึกไม่ได้สมัครใจ ไม่มีความผิด
เชื่อว่า มีเจตนาให้ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินคดี “สมาชิกวุฒิสภา” อิทธิพล “ทรงเอ”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกโซเชียลหลงเชื่อข้อมูลของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม
กระทบถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจพิจารณาการ “สับเก้าอี้” โดยตรง
ผู้นำทัพตำรวจเมืองหลวงต้องออกมาขี้แจงว่า การโยกย้ายตำรวจเป็นวาระปกติ ถ้าดูจากการโยกย้ายจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลไปเป็นสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลพญาไท “ไม่ได้แย่ลง”
ในส่วนคดียาเสพติดที่พัน สมาชิกวุฒิสภา ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยปราบปรามยาเสพติด ก่อนโอนให้ “อัยการสูงสุด” เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เป็นผู้รับผิดชอบคดี
แม่ทัพนครบาลยืนยันว่า ตำรวจที่ถูกพิจารณาโยกย้าย มีผลการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 15 มกคาคม 2566 รวม 4 เดือนอยู่ใน “เกณฑ์ต่ำที่สุด” ของหน่วย
ยังถนอมน้ำใจ “ไว้หน้า” ไม่ได้ยกเอาบันทึกการประชุมบริหารหน่วยก่อนหน้ามาอธิบายว่าเหตุใด กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ถึง “ใส่เกียร์ว่าง” มีผลการจับกุมคดียาเสพติดเป็น “ศูนย์”
แม้แต่กรณีทลายแหล่งมั่วสุมยานรกใน ผับจินหลิง ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวานำไปสู่การกระฉากหน้ากาก “ตู้ห่าว” นายทุนมังกรสีเทาก็ไม่ได้มีส่วนร่วมสังฆกรรมในการช่วยขยายผล
กระทั่งเกิดปัญหามีบุคคลพยายามโยงให้เกี่ยวกับ “การเมือง” จากการโยกย้ายตำรวจเพื่อไม่ให้ทำคดี “สมาชิกวุฒิสภาคนดัง”
ข้อเท็จจริงไม่เกี่ยวข้องตามที่กล่าวอ้าง
เจ้าตัวน่าจะรู้แก่ใจแล้วทำไมต้อง “เผาบ้านหลังเก่า”
ลากเอามาเป็นประเด็นเขย่าวงการตำรวจ