“อย่าลดขนาดของความฝัน แต่จงเพิ่มขนาดของความพยายาม ในการที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้” นายตำรวจหนุ่มยึดอุดมคติในการทำงาน
ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะมาจบชีวิตคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ทิ้งจดหมายเขียนด้วยลายมือบอกลา
“ขออโหสิกรรมให้ด้วยครับ เพราะความซึมเศร้าจนเกินไป”
สารวัตรป๊อบ-พ.ต.ต.สหัสวรรษ พันธ์เกตุ สารวัตรฝ่ายแต่งตั้ง กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล ในวัย 30 ปี เคยให้สัมภาษณ์เปิดใจกับเว็บไซต์ Police News Varieties เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า เล่าฉากประวัติความเป็นมาว่า พื้นเพเป็นคนกรุงเทพมหานคร จบการศึกษาชั้นประถมจากโรงเรียนสุขเนตร ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4-5 ที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
ก่อนเบนเข็มเข้าสู่รั้วเตรียมทหารรุ่นที่ 47 แยกเหล่าต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 63
แถมยังสะสมความรู้เพิ่มเติมไปเรียนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาลัยเวสเทิร์น และปริญญาโทคณะรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เริ่มต้นบนเส้นทางผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตำแหน่ง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรยะรัง จังหวัดปัตตานี ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงในปลายด้ามขวาน ที่เจ้าตัวเล่าว่า ได้ผ่านการฝันฝ่าอุปสรรคนานานัปการ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ ภาษา วัฒนธรรม แต่ไม่เคยหวั่นเกรงต่อภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า
“ออกนอกโรงพักก็ถือว่าเป็นพื้นที่การรบ ปืนจริง ระเบิดจริง ไม่มีแสตนอิน ดั่งในละคร ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ตายวันตายพรุ่งไม่ยักจะรู้ได้ ได้เรียนรู้งานในพื้นที่จนมีประสบการณ์ที่หลากหลายพอสมควร” อดีตพนักงานสอบสวนกลางสมรภูมิรบภาคใต้ว่า
อยู่ในพื้นที่นานเกือบ 4 ปี ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายแต่งตั้ง กองทะเบียนพล ทำงานบนพื้นฐานของหลักกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดรอบคอบ ทำงานแข่งกับเวลาที่จำกัด
ก่อนจะก้าวขึ้นเป็น “สารวัตรคนแรกของรุ่น”
เขายอมรับว่า ได้ต้นแบบการทำงานจากนายตำรวจรุ่นใหญ่หลายคน อาทิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมัยไปทำงานที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.อ.อดุลย์ได้มาถ่ายทอดประสบการณ์ หลักคิดและแนวทางวิธีการรับราชการติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน
เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บุคคลที่มีความรู้ความสามารถและรับผิดชอบงานบริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสีกากีในยุคปัจจุบัน
เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป
นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลบอกด้วยว่า ตัวเองยังมีความฝันที่จะเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ นักพูด นักคิด นักเขียน และนักสร้างแรงบันดาลใจ อยากเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นแสงสว่างให้คนไทยได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เจ้าตัวได้ศึกษาเรื่องราวดี ๆ มากมายผ่านช่องทาง youtube ไม่ว่าจะเป็นจากนักพูดระดับประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจธรรมะ การลงทุน แถมชอบเข้าวัดปฏิบัติธรรม เพื่อยกระดับจิตใจของตัวเอง ในหลายๆโอกาส
แต่สุดท้ายทำไมคนอย่างเขาต้องตัดสินใจระเบิดขมับฆ่าตัวตายคาห้องทำงานแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยนอกจากจดหมายบอกลาในกระดาษเพียงแผ่นเดียว
ผู้บังคับบัญชาหลายคนรีบด่วนสรุปว่าเกิดจาก “โรคซึมเศร้า” ตามที่เขาฝากข้อความไว้
ไม่มีการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ แถมกลับโยงเอาความเครียดสะสมมาจากสมัยทำงานใน 3 จังหวัดภาคใต้เมื่อหลายปีก่อน
ตัดตอนความจริงที่ควรสาวชนวนให้ถึงตอ
จะว่าไปแล้ว ตำแหน่ง สารวัตรฝ่ายแต่งตั้ง เหมือนแบกโลกสีกากีแทบทั้งใบไว้ในหัว เพราะมี “หัวนายบางคน” คอยชี้นำสั่งการสารพัด ให้เลี้ยวลัดออกนอกอุดมการณ์ หวัง “มูมมาม” กองผลประโยชน์จากการประมูลเก้าอี้
หลัง “เสือหิว” หวนคืนถ้ำ
