ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี และชุดจับกุมสืบสวนปราบปรามแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติชาวหมีขาวเข้ามาอยู่ในเมืองไทย ใช้ไทยเป็นแหล่งกระทำความผิดมีหมายจับฉ้อโกง อันตรายต่อคนไทยและต่างชาติ และชาวเหงียนเวียดนามแอบทำงานไม่ได้รับอนุญาต ไม่เสียภาษี ไม่ก่อเกิดประโยชน์ต่อเมืองไทย ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ให้ออกระดมกวาดล้างคนต่างชาติที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตามภารกิจ “กวาดบ้านให้สะอาด”
พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.บัญชา ลิมปิชาติ รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.หญิงชไนยพร ฉัตรภูมิ สารวัตรกองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี สั่งการให้ ร.ต.อ.อรุณ มุสิกิ้ม รองสารวัตรกองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังสืบสวนในระบบออนไลน์ทราบว่า บุคคลต่างชาติชื่อ MR.ALEXANDER SIRORKIN สัญชาติรัสเซีย มีหมายจับของศาลจังหวัดหนองคายในข้อหาโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกง จากพฤติการณ์หลอกให้ประชาชนหรือผู้เสียหายร่วมลงทุนในการซื้อขายเงินดิจิทัล และไม่นำเงินที่ลงทุนพร้อมผลกำไรมาให้ผู้เสียหาย กระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาชาวรัสเซียรายนี้ปรากฎตัวอยู่แถวบริเวณหน้าสถานีน้ำมัน ปตท.สาขาแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้แสดงหมายจับเข้าควบคุมตัว
อีกราย ร.ต.อ.ยศวีร์ รักธง รองสารวัตรกองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดราษฎร์ธานี พร้อมชุดสืบสวนสืบทราบว่ามีคนต่างด้าวแย่งอาชีพค้าขายของคนไทยออกตะเวนขายผลไม้ ตามสถานบริการต่างๆ ก่อนแฝงเป็นนักเที่ยวออกตรวจสอบที่สถานบริการในพื้นที่พบ MRS. NGUYEN THI LANH อายุ 30 ปี สัญชาติเวียดนาม หิ้วตะกร้ามาขายผลไม้ บริเวณหน้าร้าน น่า ซอย (Nal soy Bar & Bistro) เลขที่ 524 ถนนชนเกษม ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ขอตรวจเอกสารหนังสือเดินทางไม่มีรอยตราประทับขาเข้ามาในราชอาณาจักร สอบสวนสารภาพว่า หลบหนีเข้ามาทางพรมแดนธรรมชาติจังหวัดหนองคาย แล้วมุ่งหน้ามาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อมาเร่ขายผลไม้ตามสถานบริการ มีรายได้วันละ 300-500 บาท