ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บูรณาการกำลัง พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ขับเคลื่อนนโยบายด้านการปราบปรามยาเสพติดให้มีผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ
ร่วมดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในทุกระดับ โดยเริ่มต้นจากชุดสืบสวนของทุกสถานีตำรวจต้องดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในชุมชน ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดรับผิดชอบเครือข่ายผู้ค้ารายกลางที่มีความเชื่อมโยงในพื้นที่จังหวัด และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาคและกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดรับผิดชอบเครือข่ายผู้ค้ารายใหญ่ ที่มีความเชื่อมโยงกันในพื้นที่ระดับภาคหรือระดับประเทศ และให้ทุกหน่วยกำหนดเป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้าทุกระดับต่อเนื่องทุกเดือน กำหนดให้มีปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดมาตั้งแต่
เดือนมีนาคม 2566 อย่างต่อเนื่อง
ในครั้งนี้เป็นปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ห้วงระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ถึงวันที่ 6 กันยายน 2566 พื้นที่ 22 จังหวัด 355 สถานีตำรวจ มีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 835 เครือข่าย และเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 1,535 เป้าหมาย และมีผลการปฏิบัติดังนี้ ผลการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 เป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้น 324 เครือข่าย 372 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 671 คดี ผู้ต้องหา 672 ราย (หมายจับ 23 ราย) ของกลางเป็น ยาบ้า 99,925 เม็ด ไอซ์ 730.98 กรัม เฮโรอีน 127.84 กรัม เคตามีน 70.76 กรัม อาวุธปืน 31 กระบอก ตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง จำนวน 585,860 บาท และทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องจำนวน 137,741 บาท รวม 723,601 บาท
ผลการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 เป้าหมาย จำนวน 216 เครือข่าย 531 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1,006 คดี ผู้ต้องหา 1,025 ราย (หมายจับ 50 ราย) ของกลางเป็น ยาบ้า 67,428 เม็ด ไอซ์ 516.08 กรัม เฮโรอีน 0.7 กรัม อาวุธปืน 49 กระบอก ตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง จำนวน 2,690,185 บาท และทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องจำนวน 154,672,118 บาท รวม 157,362,303 บาท ส่วนพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ปิดล้อมตรวจค้น 295 เครือข่าย 623 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 602 คดี ผู้ต้องหา 617 ราย (หมายจับ 29 ราย) ของกลางเป็น ยาบ้า 1,685,583 เม็ด, ไอซ์ 26.72 กรัม เฮโรอีน 6,320.03 กรัม เคตามีน 16.30 กรัม อาวุธปืน 25กระบอก ตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง จำนวน 6,963,570 บาท และทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่อง จำนวน 30,337,041 บาท รวม 37,300,611 บาท
สรุปผลการปิดล้อมตรวจค้นทำลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้รวมทั้งสิ้น 835 เครือข่าย ปิดล้อมตรวจค้น 1,535 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2,279 คดี ผู้ต้องหา 2,314 ราย (หมายจับ 102 ราย) ของกลางเป็น ยาบ้า 1,852,936 เม็ด, ไอซ์ 1,273.78 กรัม เฮโรอีน 6,447.73 กรัม เคตามีน 87.06 กรัม อาวุธปืน 105 กระบอก ตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง จำนวน 10,239,615 บาท และทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่อง จำนวน 183,257,900 บาท รวม 195,386,515 บาท
