ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี รองผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รองผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พร้อมด้วยชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวกรณีกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมานำกำลังกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษไปตรวจค้นแหล่งพักยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม ยึดของกลาง ยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรอีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัมและยาเสพติดประเภทแฮปปี้วอเตอร์และยาไฟว์ไฟว์อีกจำนวนมาก พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 รายที่มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด คือ นายชลิต เขียวพราย อายุ 39 ปีที่อยู่ 88/2 หมู่ที่ 2 ตำบลทัพหลวง อำเภอเมืองนครปฐม นายอภิชาติ เอกจีน อายุ 38 ปี นายจรัญ เขียวพราย อายุ 38 ปี และนายวัชระ เขียวพราย อายุ 36 ปี
การจับกุมครั้งนี้ พ.ต.อ.ทวีบอกว่า ถือเป็นผลงานครั้งสำคัญ เพราะจุดดังกล่าวถือเป็นแหล่งพักยาที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ใจกลางประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ชุมชน ผู้ต้องหาที่ถูกจับก็พบประวัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจำนวนมาก อยากมาให้กำลังใจชุดจับกุม รวมถึงชื่นชม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีความเป็นห่วงเยาวชนผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่ การจับกุมครั้งนี้เป็นการสกัดยาเสพติดลอตใหญ่ไม่ให้ออกไปแพร่ระบาด หลังจากนึ้จะต้องไปดูในเรื่องข้อกฎหมายในส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องจะเพื่อให้สอดคล้อง ยกระดับการป้องกัน คุมเข้มพื้นที่ ตามกฎหมายสามารถประกาศเป็นพื้นทึ่สงครามยาเสพติดยกระดับในภูมิภาค รัฐบาลประกาศ 1 ปี ปราบยาเสพติด แต่ตนได้สั่งการทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภายใน100 วันให้เห็นผล เราจะดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่แรงกว่าการตัดตอนเพราะเราจะยึดทรัพย์โครงข่ายทั้งหมด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ใช้รถยนต์ตระเวนส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าบริเวณถนนบรมราชชนนี และพื้นที่พุทธมณฑลสาย 5 ได้เฝ้าสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้เช่าบ้านไว้เป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติดในพื้นที่ตำบลลำพญา อำเภอเมืองนครปฐม จนเมื่อสองวันก่อนพบมีการลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งที่พักอื่นมาพักที่บ้านเลขที่ 20/15 ซอยลำพยา-บอสโก 2 ตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมืองนครปฐม ตำรวจได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม
สำหรับเครือข่ายนี้ ตำรวจ 191 ได้ติดตามจับกุมต่อเนื่องมา 4 คดีเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยจุดที่เข้าไปตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาเมื่อคืนนี้ เป็นจุดพักยาที่กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการขนย้ายยาเสพติดจากเซฟเฮาส์หลายแห่งมารวมกัน เพื่อหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางสภ.เมืองนครปฐมได้ตั้งด่านอาชญากรรมมีการจับกุมผู้ต้องหาคือนายวราวุธ อินคล้าย 36 ปี ในความผิด มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องหาในข้อหาสมคบเพื่อการฟอกเงินของทางบช.ปส เมื่อกลุ่มผู้ต้องหาทราบ จึงเกิดความกลัว ขนย้ายยาเสพติดมารวมกันที่นี่ ทำให้สามารถตรวจยึดของกลางได้ปริมาณมาก และยังพบเฮโรอีนซึ่งเป็นยาเสพติดที่ไม่ค่อยพบในประเทศไทย เนื่องจากมีต้นทุนสูง นอกจากนี้ ยังมียาเสพติดชนิดที่ผ่านการดัดแปลงมาแล้วเพื่อใช้สำหรับเสพในสถานบันเทิงด้วย เช่น แฮปปี้วอเทอร์ และไฟว์ไฟว์
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดการจับกุมยาเสพติดลอตใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีมติให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 ทันทีหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ยืนยันการจับกุมในครั้งนี้ ไม่ใช่การจัดฉาก แต่อาชญากรรมสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เมื่อมีโอกาสตำรวจมีหน้าที่ตัดโอกาสในการกระทำความผิดทันที คนร้ายไม่ได้มาบอกว่าจะขนยาวันไหน เมื่อคืนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้โทรศัพท์มาแจ้ง ตนก็โทรศัพท์ไปรายงาน พล.ต.อ. ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่รับผิดชอบงานเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ พล.ต.อ.ชินภัทรติดภารกิจมอบหมายให้ตนไปดูที่เกิดเหตุแทน
เมื่อถามว่า การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ทำให้ถูกเชื่อมโยงไปถึงกรณีกำนันนกว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ขอให้อย่าไปโยงถึงกัน ใครทำคดีไหนก็ชัดเจน ต้องไปถามที่คนนั้น พร้อมย้ำว่า ตนดูในเรื่องของงานป้องกันปราบปราม เรื่องยาเสพติดก็ถือเป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ที่ผ่านมาได้ทำเรื่องชุมชนยั่งยืนมานานแล้ว คื อเข้าไปแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ไม่ได้เพิ่งมาทำตอนที่มีผลการคัดเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และทางสายตรวจ 191 แกะรอยเคสนี้มานานกว่า 2 ปี
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในการที่จะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเน้นนโยบายหลักเรื่องยาเสพติดใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตอบว่า เรื่องยาเสพติด เป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลได้กำชับอยู่แล้ว นอกจากนี้จะมีเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือคอลเซ็นเตอร์ รวมไปถึงเรื่องการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เมื่อถามนโยบายในการดำรงตำแหน่งผู้นำ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เลี่ยงว่า เรื่องตำแหน่ง ขอยังไม่ตอบ ยังไม่อยากพูด จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ยังเป็นแค่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ