จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจตุ๋นเหยื่อทำยอดได้ส่วนแบ่งกว่า5ล้าน

 

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6  พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร
รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ จุติวรกุล รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 สั่งการให้ พ.ต.ท.คชภพ คงสมบูรณ์ สารว้ตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4
ร่วมกันจับกุมตัวนายไชยนันท์ หลาบนอก อายุ 20 ปี  ที่อยู่ 67 หมู่ที่ 3 ตำบลส้มปอย อำเภอโนนแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้บริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพหมอชิต (จตุจักร) ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์แห่งคดี ผู้ต้องหาได้รับการติดต่อจากเพื่อนให้ไปทำงานแก็งคอลเซนเตอร์ที่จังหวัดปอยเปต ประเทศกัมพูชา เดินทางโดยใช้เส้นทางธรรมชาติ ต้องเสียค่าเข้า 3,500 บาท ต่อการผ่านแดน 1 ครั้ง  มีนายหน้าเป็นชายชาวกัมพูชาพาข้าม ก่อนทำหน้าที่คอลเซนเตอร์ฝึกเขียนสคริปต์เพื่อได้รู้วิธีการหลอก เมื่อเริ่มชำนาญได้ทำหน้าที่เป็นสายโทรเข้าที่ 2 แสดงตัวเองเป็นตำรวจ  แต่ละวันมีสายติดต่อผู้ต้องหาประมาณวันละ 10 สาย ได้ค่าจ้างประมาณ 30,000 บาท  รายได้ที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายจะหัก20 เปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นค่าดูแลบัญชีม้า และได้รับค่าคอมมิชชั่น 3 เปอร์เซ็นต์จากการหักให้บัญชีม้า เดือนที่ผู้ต้องหาทำได้ยอดสูงสุดต่อเดือน 5 ล้านบาท

ขั้นตอนการหลอกเหยื่อ สายที่ 1 จะได้เบอร์จากการยิงแอดเพื่อหาข้อมูลผู้เสียหาย เมื่อได้เบอร์มาแล้วจะทำการโทรไปหลอกผู้เสียหายโดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งสินค้าข้ามประเทศ ระบบจะโอนสายมายังสายที่ 2 ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวรประจำโรงพักอ้างว่ารับคดีออนไลน์ และคุยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายเลขบัญชีที่ถืออยู่ มีสายที่ 3 จะทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสารวัตรขึ่นไปขู่ให้โอนเงินมาเพื่อตรวจสอบถ้าไม่โอนจะอายัดบัญชี และจะต้องโทษตามกฎหมาย ผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นคอลเซนเตอร์มาแล้ว ปีกว่าๆ จนกระทั่งถูกจับกุมโดนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีชายชาวจีนชื่อ มิงตู้ เป็นเจ้าของคนดูแล

 

RELATED ARTICLES