เมื่อวันที่ 16 พ.ย.66 ว่าที่ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค, สั่งการ พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล รักษาราชการแทน ผู้กำกับการ3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค, พ.ต.ท.วัลลภ นุชกำบัง สารวัตร กองกำกับการ3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค, ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 21 จุด ในพื้นที่ 11 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพ, ปทุมธานี, นนทบุรี, สระบุรี, สมุทรสาคร,สมุทรปราการ, นครปฐม,นครราชสีมา, ประจวบคีรีขันธ์, นครสวรรค์ และสกลนคร แบ่งเป็นค้นสถานที่ผลิต 11 จุด, โกดังเก็บสินค้า 8 จุด และร้านจำหน่ายท่อไอเสียอีก 2 จุด พร้อมตรวจยึดท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ พร้อมชิ้นส่วนและอุปกรณ์การผลิตท่อไอเสีย รวม 954 หน่วย
พล.ต.ต.วิทยา เปิดเผยว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะ ซึ่งช่วงนี้จะเข้าสู่เทศกาลสำคัญ หลังเข้าสู่ฤดูหนาว จะมีกลุ่มวัยรุ่นจัดทริป มีรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งเข้าร่วมนับพันคัน รวมตัวไปขับขี่ในทางสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อเป็นป้องกันตนจึงสั่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจค้นและจับกุมแบบครบวงจร ตั้งแต่สถานที่ผลิต ,โกดังสินค้า รวมถึงร้านจำหน่าย และดัดแปลงแต่งซิ่งด้วย
สำหรับผลการตรวจค้น สามารถยึดท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ ที่ไม่มี มอก.พร้อมอุปกรณ์กว่า 954 หน่วย มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ3กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคบ, ดำเนินคดีพร้อมขยายผลหาตัวเจ้าของมาดำเนินคดีข้อหา “ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท ส่วนผู้ขายจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่ออีกว่า ในการจับกุมพบกลุ่มผู้ผลิตท่อไอเสียที่ไม่มี มอก.ส่วนใหญ่จะเปิดขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ในกลุ่มปิด เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม โดยจะแยกขึ้นส่วนไว้ เมื่อมีลูกค้าสั่งถึงจะนำมาประกอบส่งขาย มีราคาตั้งแต่ 500 บาท ไปจนถึง 6,000 บาทต่อใบ ผู้ผลิตบางรายที่มึใบอนุญาตจาก สมอ.แล้วกลับไปทำการดัดแปลง และไม่ตรงตามมาตรฐาน ตามที่เคยขออนุญาตไว้ ก็จะได้ติดตามจับกุมกันต่อไป
