เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.66 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกียวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ พ.ต.อ.ชัฎฐ นากแก้ว รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกียวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกียวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สารวัตรกองกำกับการ1กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกียวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายอัจฉริยะ ลิ้มสุวรรณ อายุ 39 ปี น.ส.ศศิประภา สำเนียง อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4511- 4512/2566 ลง 30 พ.ย.66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, หลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” โดยจับกุม นายอัจฉริยะ ได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง สาขารัตนาธิเบศร์ 3 ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี จับกุม น.ส.ศศิประภา ได้ที่บริเวณหน้าประตูเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า กรณีมีผู้เสียหายจำนวนหลายร้อยราย ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อ packages ทัวร์ต่างประเทศผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ้วน ผอม จอมเที่ยว ของ นายอัจฉริยะ กับ น.ส.ศศิประภา สองสามีภรรยา หลังเมื่อถึงกำหนดกลับไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ เนื่องจากทัวร์ล่ม หรือบางรายเดินทางไปแล้ว แต่กลับไม่มีโปรแกรมทัวร์ตามตารางที่แจ้งไว้ขณะเดียวกันผู้เสียหายบางส่วนก็ถูกบังคับให้ออกค่าใช้จ่ายเอง และยังไม่สามารถขอเงินคืนได้ทั้งที่ทางบริษัทเคยยืนยันว่า สามารถขอเงินคืนได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก ก่อนนำเรื่องมาเข้าร้องเรียนกับทางตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกียวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า หลังรับเรื่องจึงได้มีการตั้งคณะทีมงานสืบสวนสอบสวน ขึ้นมา ปัจจุบันมีการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 60 ราย จากทั้งหมดจำนวน 400 ราย ยอดมูลค่าความเสียหายขณะนี้อยู่ที่กว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่า พฤติกรรมทางคดีคล้ายกับแชร์ลูกโซ่รูปแบบหนึ่ง คือ มีการนำเงินของลูกค้าที่จองซื้อทัวร์ล่วงหน้า มาใช้จัดทัวร์ให้กับลูกค้าปัจจุบัน เหมือนกับการหมุนเงิน
ด้าน พ.ต.อ.ไกรวิศท์ กล่าวว่า หลังปรากฎหลักฐานการกระทำผิดค่อนข้างแน่ชัดทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองราย กระทั่งติดตามจับกุมตัวทั้งสองรายดังกล่าว จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งสองยังคงให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญา ตอนนี้ทราบว่าในส่วนของ น.ส.ศศิประภา ขณะนี้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล ขณะที่ นายอัจฉริยะ ทราบว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
พ.ต.อ.ไกรวิศท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ผู้ต้องหาจะยังคงยืนกรานปฏิเสธ ก็ไม่ได้หนักใจเพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้ ส่วนจะมีผู้เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ตำรวจ ปคบ.แถลงข่าวรวบยกแก๊ง “เพจอ้วนผอม ออนทัวร์” ตุ๋นเหยื่อซื้อทัวร์ทิพย์กว่า 400 คน ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เผยเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เร่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
RELATED ARTICLES