ใกล้ฤดูการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมักเกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ
หน่วยเฉพาะกิจมากหน้าหลายตาพากันขยันเฮโลลุยกวาดจับอบายมุขกันเป็นพิเศษ เหมือนเป็นมหกรรมลดแลกแจกแถมทำ “เก้าอี้ร้อน” กันเป็นแถว
จะเกี่ยวข้องโยงใยกันอย่างไร วงการตำรวจรู้ดีแก่ใจ
ทว่าสุดท้าย “ตำรวจท้องที่” จะมักหนีไม่ออกจาก “เป้านิ่ง” ยิงตรงไหนก็เจอ
ย้อนกลับไปดูการมอบนโยบายข้าราชการตำรวจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันก่อน
มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำข้าราชการตำรวจตั้งแต่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงผู้บังคับการทั่วประเทศ จำนวน 169 นาย ร่วมรับฟัง
นอกจากนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ผู้ค้ายาเสพติด และแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองแล้ว พี่ใหญ่ของบ้าน “วงษ์สุวรรณ” ยังพูดถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการ วาระประจำปี 2560 ที่ค้างเติ่งมาข้ามปี
เหมือนดูดีมีหลักการ
งานนี้นักข่าวห้ามเข้าฟัง แต่ยังมีนายตำรวจดันทุรังคาบข่าวมาส่งให้
รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพูดกลางที่ประชุมว่า อยากบอกกับทุกคนเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่กำลังจะมีขึ้น ทำอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา หน่วยปฏิบัติต้องตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีผลงานเป็นที่ยอมรับ
ต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง
หน่วยต้องเข้มแข็งสนับสนุนคนทำงาน ทำรายชื่อเสนอขึ้นมาตามลำดับ ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ตรวจสอบว่า บุคคลที่หน่วยเสนอมาเหมาะสมหรือไม่
“ถ้าเห็นว่า ไม่เหมาะสม ต้องมีเหตุผล หรือหลักฐาน และให้หน่วยชี้แจง เพื่อให้ได้คนดี คนเหมาะสมได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไปทำหน้าที่ที่สำคัญมากกว่า” พล.อ.ประวิตรว่า
ทิ้งท้ายเจ้าตัวย้ำว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ผู้บังคับการทะเบียนพล ต้องกำกับดูแลให้ความเป็นธรรม
ถือเป็นวาทะกรรมอย่างเป็นทางการบนเวทีที่ประชุมมอบนโยบายผู้บริหารระดับ “นายพล” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศ “ความโปร่งใส” ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในอนาคตอันใกล้
ส่วนถึงเวลาการปฏิบัติจริง “เด็กเส้น เด็กฝาก เด็กนาย” ที่บ่อนทำลายระบบคุณธรรมยังคงย่ำยีคนทำงานอีกหรือไม่
บ้านโชคชัย ลาดพร้าว มีคำตอบ !!!