ฉายาประจำปี

 

กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วสำหรับภารกิจของทีมข่าวสายอาชญากรรมที่จัด “ฉายาตำรวจประจำปี” ให้แก่คนสีกากี

ปีนี้ นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ นายสมชาย จรรยา อุปนายกสมาคม นายสุรชัย นิโคธานนท์ อุปนายกสมาคม นายธนากร ริตุ ประชาสัมพันธ์สมาคม พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสมาคม และ นายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายประจำสมาคม พร้อมตัวแทนสื่อมวลชนในสังกัดร่วมกันแถลงการณ์ตั้ง “ฉายาตำรวจ” ประจำปี 2566

หลังเฝ้าติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำเสนอผลงานสู่สายตาประชาชน

เพื่อสะท้อนการทำงานของเหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

พิจารณารายชื่อนายพลตำรวจผ่านการคัดเลือกในการให้ฉายาประจำปี 11 นาย

เริ่มต้นด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ฉายา  “ต่อ เฟรนลี่” จากภาพตรวจเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาแบบเรียบง่ายไม่ถือเนื้อถือตัว ร่วมวงกินข้าว เหมาก๋วยเตี๋ยวนั่งซดกับลูกน้อง มอบรอยยิ้มทักทายชาวบ้านด้วยความเป็นกันเอง เสมอต้นเสมอปลายเป็นที่รักของผู้ได้สัมผัสใกล้ชิดจำนวนมาก

ขณะที่ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฉายา “สุภาพบุรุษสีกากี” ด้วยฝีไม้ลายมือในการทำงานบู๊บุ๋นระดับผู้บริหารกำนหดเกษียณอายุราชการปี 2567  ขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสลำดับ 1 เป็นแคนดิเดต “แม่ทัพปทุมวัน” ถึง 2 รอบก่อนพลาดผิดหวัง ยังก้มหน้าก้มตาทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย  ไม่มีฟ้องร้องทวงสิทธิแต่อย่างใด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับฉายา “โจ๊กรอได้” นายพลตำรวจคนดังที่ปรากฏตัวออกสื่อมากที่สุด มีอายุราชการเหลืออีกหลายปี ถูกจับตาเส้นทาง “คั่วเก้าอี้” พิทักษ์ 1 คนต่อไป หลังจากขยับอาวุโสเบอร์ต้น อย่างไรก็ตาม ยังมีขวากหนามรออยู่ข้างหน้า เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรอได้ ใครอยากเป็นก็เป็นไปก่อน

ส่วน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ  ผู้ช่วยผู้บัญขชาการตำรวจแห่งชาติ รับฉายา “หลวงโดดปราบยา” นายตำรวจชื่อเล่น “หลวง” ได้รับความไว้วางใจให้ดูงานป้องกันปราบปรามและบำบัดผู้ติดยาเสพติด นำกำลังระดมกวาดล้างยานรกทั่วประเทศ กระทั่งได้รับการเสนอชื่อกระโดดข้ามห้วยเป็นข้าราชการพลเรือนตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “เจ้า แข็งโป๊ก” แม่ทัพตำรวจเมืองหลวงถูกการันตีเป็น “คนตงฉิน” ยอมหักไม่ยอมงอ และไม่ยอมรามือให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ออกนอกลู่นอกทาง เน้นย้ำภารกิจสำคัญสูงสุด “ถวายความปลอดภัย” รวมถึงการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ประกอบกับการแต่งตั้งที่ผ่านมาหลายคนคิดว่าอาจต้องได้ย้ายขยับเก้าอี้เนื่องจากการเมืองเปลี่ยนขั้ว ท้ายสุดยังคงดำรงตำแหน่ง “น.1 ต่ออย่างเหนียวแน่น

พล.ต.ท.ไตรรงค์  ผิวพรรณ  ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ฉายา “บิ๊กอรรถกัดไม่ปล่อย” เจ้าตัวมีชื่อเล่นว่า “อรรถ”  เป็นหัวหน้าทีมคดี “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตกเป็นผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี 2 คดี และคดีข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี  ทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่เลือกปฏิบัติ แถมสวมหมวกเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศไล่กวาดเครือข่ายพนันออนไลน์ที่สร้างความเดือดร้อนมอมเมาเยาวชนชนิดถอนรากถอนโคน

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉายา “เพชฌฆาตโจรไซเบอร์” รับบทหัวหอกคุม “ขุนพลไซเบอร์” ออกปราบปรามมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์ที่หลอกลวงเหยื่อผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ปิดเกมแก๊งหลอกนักเรียน ม.6 โอนเงินซื้อไอโฟนจนเครียดผู้คอตาย ขณะเดียวกันยังแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์กลโกงของคนร้ายสร้าง “วัคซีนทางไซเบอร์” ให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงของโจรมรอาละวาดหนักในยุคดิจิทัล

พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1  “ที่สุดของแจ้”  น้อยคนจะรู้ตัวตนชื่อเล่นของเขาว่า   “แจ้”  ด้วยบุคลิกที่เป็นนายตำรวจใฝ่รู้ มาดสุขุม นุ่มลึก มีรอยยิ้มและสมองเป็นอาวุธ บวกกับสไตล์การทำงานคลุกคลีตีฝุ่นเป็นกันเองกับผู้ใต้บังคับบัญชา ยามว่างลงพื้นที่เสริมสร้างสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับประชาชน ลุ้นเลื่อนตำแหน่งตกขบวนหลายรอบกว่าจะสมหวังนั่งเก้าอี้ใหญ่คุมพื้นที่ภูธรสำคัญปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ

สำหรับ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ฉายา “เชอร์ล็อกนพ”  นายพลนักสืบยุค 5 G  ผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย ประสบการณ์ครบเครื่องระดับอาจารย์ ถูกดึงตัวมาอยู่ในชุดทีมคลี่คลายคดีสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลายยุคหลายสมัย ถือตัวตัวจักรสำคัญในการคลายปมปริศนาการตายของ “น้องชมพู่” รวบรวมพยานหลักฐานส่งศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก นายไชย์พล วิภา 20 ปี ติดทำเนียบเป็น “นักสืบชั้นครู” ของวงการตำรวจไทย เทียบคล้ายกับนักสืบดังในนวนิยาย “เชอร์ล็อกโฮล์ม”  

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถูกยกฉายา “มือปราบกังฉิน” ไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพล ผ่านคดีดังมากมายที่เกี่ยวข้องกับการจับข้าราชการระดับสูง”ขี้ฉ้อ” ทุจริตเรียกรับสินบน ตั้งแต่สมัยเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ นำทีมรวบ นายวีระชาติ รัศมี  นายกเทศบาลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ลูกเขยของ “นายชาดา ไทยเศรษฐ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นที่ฮือฮา

สุดท้าย  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ได้ฉายา “โคนันนครบาล” ฝีมือระดับตำนานนักสื ผ่านการฝึกฝนตำราสืบสวนมาอย่างมากมาย โดดเด่นด้านการสืบสวนตามเช็กบิลปิดคดีสำคัญในเมืองกรุงแทบหมดเกลี้ยง โดยเฉพาะคดีชิ้นโบแดงปิดเมืองล่าแก๊งอาชีวะทมิฬ ยิง “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” นักศึกษาอุเทนถวาย ทำลายองค์กรอาชญากรรมขนาดย่อมย่อยยับ

 

RELATED ARTICLES