รวบอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกหนุ่มขี้เหงาโชว์ของลับผ่านวิดีโอคอล

 

เตือนภัยผู้ชายขี้เหงา การหลอกลวงสุดแสบที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัย MSN Webcam หลอกให้โชว์ของลับก่อนขู่แบล็กเมล ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ล่าสุดคนร้ายปลอมโปรไฟล์เป็น “ครูเบส” ครูสาวชื่อดังในโลกออนไลน์ หลอกคอลเสียวชวนสยิวก่อนจะเชือดด้วยการขอให้ “ลวกก๋วยเตี๋ยว” ให้ดู เมื่อเหยื่อหลวมตัวจะถูกคนร้ายบันทึกวิดีโอไว้ ก่อนจะนำมาข่มขู่แบล็กเมลเรียกทรัพย์สินเสียเงินไปกว่า 50,000 บาท ยังถูกข่มขู่อย่างต่อเนื่องจนเกือบคิด “ทำร้ายตัวเอง”  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ติดตามขบวนการที่ถูกออกหมายจับเป็นชายแก่เร่ร่อนอายุกว่า 64 ปี เปิดใจกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกเกณฑ์ไปเพื่อไปแสกนใบหน้าในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต 6 วัน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อำนวยการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุญยมานนท์  ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล บูรณาการกำลัง พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 5 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  ร.ต.ท.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา รองสารวัตรฝ่ายทะเบียนประวัติ 7 กองบังคับการทะเบียนประวัติอาชญากร ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลดินแดง   ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ สารวัตรฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  จ.ส.ต.สรศักดิ์ ด้วงชู ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 4  ส.ต.อ.ณัฐกิต เชื้อสุข ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ส.ต.ท.คเชนทร์ ดำคล้ำ ผู้บังคับหมู่กองร้อยที่ 1 กองกำกับการอารักขา1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ส.ต.ต.เมธิชัย คำดี ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล กับพวกอออกติดตาม

จับกุม นายนิพนธ์ แพทย์เพียร อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1114 ถนนราชนิกูล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา ได้ที่ริมชายหาดบ้านอำเภอ ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตามพฤติกรรมมหันตภัยยุค 5G สำหรับเหล่าพ่อบ้าน “หลอกลวกก๋วยเตี๋ยว” มุกการหลอกลวงที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคสมัย Y2K ที่มิจฉาชีพจะลวงให้เหล่าชายหนุ่มลวกก๋วยเตี๋ยวโชว์ของลับช่วงตัวเองให้ดู ผ่านทาง MSN , Webcam หรือแพล็ตฟอร์มอื่นๆ วิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำรูปแบบการหลอกนี้ไปใช้ในการต้มเหยื่อจำนวนมาก ถือเป็นภัยสังคมยิ่งเพราะการหลอกลวงลักษณะนี้เหยื่อเกือบทุกรายจะมีความคิดทำร้ายตัวเอง มีหนุ่มวัยกลางคนหน้าที่การงานดี อนาคตไกล ต้องตกเป็นเหยื่อของขบวนการสร้างโปรไฟล์เป็น “ครูเบส” ครูสาวชื่อดังในโลกออนไลน์ ให้ผู้เสียหายหลวมตัวแชตข้อความสนทนาตามประสาชายโสด ด้วยความแสบทรวงของขบวนการใช้มารยาต่างๆนานา ทำให้เหยื่อเคลิบเคลิ้ม ก่อนเชือดด้วยการขอ “คอลเสียว” หว่านล้อมให้เหยื่อโชว์ของลับจะยอมตกลงคบเป็นแฟน ทำให้เหยื่อที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก สติสัมปชัญญะมักลดลง ก่อนจะสาวเจ้าโลกให้ดูผ่านวิดีโอคอล  เห็นทั้งอวัยวะเพศเห็นทั้งใบหน้าบันทึกวิดีโอไว้ทุกกระบวนท่า

หลังจากนั้นครูสาวแสนสวยได้เปลี่ยนเป็นมิจฉาชีพทันที พร้อมข่มขู่เรียกเงิน หากไม่จ่ายจะส่งคลิปให้เพื่อนในเฟซบุ๊กของเหยื่อทั้งหมด ผู้เสียหายกลัวยอมโอนเงินให้ แต่ยังถูกข่มขู่เรื่อยมา รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง รวมทั้งหมดกว่า 50,000 บาท  ทนไม่ไหวเข้าแจ้งความดำเนินคดี  เหยื่อถึงขั้นอยากทำร้ายตัวเอง ต่อมามีการสอบสวนจนทราบว่าหนึ่งในขบวนการ คือ นายนิพนธ์  แพทย์เพียร 64 ปี ทราบเพียงว่าเป็นบุคคลที่เร่ร่อนอยู่ตามริมชายหาดพัทยา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลนำกำลังลงพื้นที่ตระเวนเดินตามริมชายหาดเป็นเวลากว่า 3 วัน กว่าจะจับกุมตัวได้ สอบสวนรับว่า เมื่อประมาณปี 2566 ตอนนั้นพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแถบชานเมืองโคราช มีคนมาตระเวนเกณฑ์คนจากหมู่บ้านที่ละ 100-200 คน ไปยังปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อใช้บัญชี และพักอยู่ในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับจ้างเปิดบัญชีมาใช้ในรับเงินจากการหลอกลวง มีอาหารคอยเลี้ยงดู และเรามีหน้าที่แค่คอยแสกนใบหน้าให้ นานประมาณ 6 วัน จากนั้นก็กลับมายังประเทศไทยแลกค่าตอบแทนบัญชีละ 7,000 บาท ตอนนั้นเปิดไป 3 บัญชี ได้เงินมา 21,000 บาท ไม่ทราบว่า บัญชีจะถูกนำไปใช้หลอกลวงอะไรบ้าง

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าในปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลา รูปแบบนี้ถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำมาใช้ ถือเป็นภัยอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเหยื่อจะสูญเงินเป็นจำนวนมากให้แก่กลุ่มบุคคลเหล่านี้แล้ว ยังจำต้องแลกมาด้วยชื่อเสียง เกียรติยศ และที่สำคัญคือ บาดแผลทางจิตใจที่ยากต่อการเยี่ยวยา จนบางรายไม่กล้าจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ และบางรายถึงขั้นคิดจะจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีกับอดีตที่ผิดพลาด  ขอฝากเตือนเหล่าบุรุษทุกท่านที่ต้องการหาเพื่อนหรือพูดคุยกับบุคคลอื่นๆ เคยพึงระลึกไว้เสนอว่า “รู้หน้า ไม่รู้ใจ” และขอแจ้งประชาสัมพันธ์ไปยังเหล่าพ่อบ้านหรือบุคคลใด เชื่อว่า เคยถูกหลอกลวง แบล็กเมลในลักษณะนี้ สามารถติดต่อให้เบาะแสทางเฟซบุ๊กเพจสืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันทีผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

RELATED ARTICLES